โบรกมองปี 66 กลุ่ม “ขนส่ง” ฟื้นตัว รับนักท่องเที่ยวพุ่ง-โควิดคลี่คลาย ชู AOT ท็อปพิก

โบรกมองปี 66 กลุ่ม “ขนส่ง” ฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้น รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมโควิด-19 ชูหุ้น AOT ท็อปพิก มีผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 81 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโนมการท่องเที่ยวของไทยเป็นบวกหลังจากผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดของสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้วในช่วงกลางไตรมาส 2/2565 ทั้งนี้ดัชนี Google Mobility index สะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมทางธุรกิจจนกลับมาอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดแล้ว หลังจากที่มีการผ่อนคลายข้อจำกัดในการคุมโรคระบาดลง ซึ่งแนวโน้มโดยรวมสะท้อนได้จากศูนย์การค้า, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, ระบบขนส่งมวลชน, ร้านสะดวกซื้อ,ร้านขายยา และอาคารสำนักงาน

การขนส่งทางอากาศเป็นหนึ่งในหมวดที่ได้รับอานิสงส์เต็มๆ ในกลุ่มขนส่งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งจากสถิติของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาอย่างมากจากเพียง 7,906 คน/เดือน ในเดือนพฤศจิกายน 2564 และในเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็น 105,002 คน/เดือน ในขณะที่จำนวนในเดือนพฤศจิกายน 2564 เที่ยวบินเพิ่มขึ้นจาก 251 เที่ยว/เดือน และในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 743 เที่ยว/เดือน

โดยยังคงเชื่อว่า AOT เป็นหุ้นที่ดีที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากเป็นผลประกอบการสนามบินพาณิชย์เพียงรายเดียว ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในเชิงของจำนวนผู้โดยสารประมาณ 80-85% ของจำนวนผู้ที่เดินทางอากาศทั้งหมดในประเทศไทย

โดยคิดว่าผู้โดยสารที่กลับมาเดินทางเพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้ และอัตรากำไรของ AOT เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งจะทำให้อัตราการใช้งานสินทรัพย์ (asset utilization) ดีขึ้นด้วย

สำหรับจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/2565 และปี 2566 คาดว่าโมเมนตัมของจำนวนนักท่องเที่ยวรายเดือนจะเร่งตัวขึ้นอีกในไตรมาส 4/2565 ตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์การเดินทาง

โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปีหน้าเอาไว้ที่ 4 ล้านคน และมองว่ายังอาจมีอัพไซด์อีกจากการที่จีนกลับมาเปิดประเทศ สำหรับในขณะนี้ ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565-2566 ประเมินไว้ที่ 11 ล้านคน และในปี 2566 ประเมินไว้ที่ 25 ล้านคน

พร้อมเดินหน้าขยายสนามบินอย่างต่อเนื่อง แผนการเปิดประมูลโครงการขยายสนามบินดอนเมืองเฟสที่ 3 มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณปลายปี 2566 โดยน่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 2572 และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคน/ปี

ทั้งนี้ จะมีการแบ่งงานก่อสร้างออกเป็นหกกลุ่ม และ AOT จะเปิดประมูลให้บริษัทเอกชนเพียงรายเดียวรับงานก่อสร้างทั้งหมด เพื่อลดปัญหาการส่งมอบพื้นที่ระหว่างผู้รับเหมาของงานแต่ละส่วน โดยการขยายสนามบินดอนเมืองในเฟสนี้ ได้แก่ การปรับปรุง Passenger Terminals 1 และ 2 พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับอาคารอีกหลังหนึ่ง ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 22 ล้านคน/ปี

นอกจากนี้ยังจะมีการปรับปรุงอาคาร Passenger Terminal ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน เพื่อรองรับผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ 18 ล้านคน/ปี

โดยธุรกิจขนส่งมวลชนจะได้รับอานิสงส์บวกลำดับถัดไป การผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมโควิด-19 (ลดนโยบาย WFH และการเรียนออนไลน์) จะทำให้มีการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติได้ภายในต้นปี 2566

อย่างไรก็ดี แนวโน้มของธุรกิจขนส่งมวลชนดีขึ้นมาหลายเดือนแล้ว แต่ยังมีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ BTS อยู่ ได้แก่ 1) สายสีเขียวส่วนต่อขยาย และ 2) หนี้ค้างรับ 3 หมื่นล้านบาทจากการให้บริการสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในที่สุด แม้ว่าจะยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนก็ตาม

ดังนั้น ราคาหุ้นจึงน่าจะยังถูกถ่วงอยู่จนกว่าจะเห็นทางออกที่ชัดเจนของประเด็นที่ยังค้างคาในขณะนี้

โดยยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ Overweight และยังคงเลือก AOT เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ เนื่องจาก 1) ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2566 และ 2) สถานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นหลังผ่านช่วงวิกฤตไปแล้ว ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AOT และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ที่ 81 บาท

Back to top button