3 คำใบ้! ชี้เป้า “อดีตรองนายกฯ” เล่นชู้ “ษิทรา” แย้มเดาไม่ยาก

ทนาย “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ตั้งโต๊ะแถลงเปิดคำใบเพิ่มให้เดากันต่อ หลังจากรับทำคดีฟ้องชู้ที่อดีตรองนายกรัฐมนตรี เผยที่ผ่านมาลูกความมีการโดนข่มขู่จนลูกความรู้สึกไม่ปลอดภัย


จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องคดีความในการฟ้องชู้ โดยมีการระบุว่าเป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี กระทั่งต่อมาล่าสุดเมื่อวันที้ 9 ม.ค. นายษิทรา ได้มีการแถลงข่าวถึงความชัดเจนในคดีที่เกิดเหตุ โดยย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแบบที่นักการเมืองบางคนให้สัมภาษณ์ แต่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 65 ที่ผ่านมา โดยคุณ ก. มีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันที่ทำงานกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีท่าทีเปลี่ยนไป ก่อนที่จะเปิดโทรศัพท์เจอข้อความในไลน์และภาพลับของทั้งคู่ ก็รู้สึกตกใจ กระทั่งรู้ว่าและเมื่อรู้ว่าชายอีกคนเป็นใครก็ตกใจอีก เพราะเป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี จากนั้น คุณ ก. จึงมาหาตนเองเพื่อปรึกษาคดีความ เนื่องจากภรรยาไม่ยอมหย่า ตนเองจึงแนะนำว่าฟ้องหย่าได้ ซึ่งสามารถเรียกค่าทดแทนจากภรรยา และคนที่เป็นชู้ รวมถึงฟ้องหย่าได้ จากนั้นก็มีการว่าจ้างกันเป็นทนายความ และตนเองก็ฟ้องให้แล้ว ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย รวมถึงฟ้องหย่าด้วย

อย่างไรก็ตามใน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่องที่มาเป็นข่าว แต่เมื่อคุณ ก. ทำการฟ้องแล้ว กลับถูกระรานโดยชายฉกรรจ์ที่ตามมาที่คอนโด นอกจากนั้นเมื่ออดีตรองนายกฯคนนี้ทราบเรื่องแล้ว ก็พยายามที่จะตีตัวออกห่างภรรยาของคุณ ก. รวมถึงทวงสิ่งของต่างๆคืน แม้จะเป็นการให้โดยเสน่หา แต่สุดท้ายก็มีการไปแจ้งความว่า ภรรยา คุณ ก. ยักยอกไป จากนั้นก็มีเหตุให้ไปโรงพักกัน ปรากฏว่าตำรวจมีการแจ้งกับอดีตรองนายกฯ ทำให้มีการนำชายฉกรรจ์มาล้อมที่โรงพัก ทำให้คุณ ก. รู้สึกไม่ปลอดภัย

สำหรับในเรื่องนี้ตนได้ร้องเรียนไปที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วด้วย ทำให้คุณ ก. อยากให้เรื่องนี้เผยแพร่ต่อสื่อฯมวลชน เนื่องจากว่าหากเป็นอะไรขึ้นมาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะคุณ ก.ไม่มีศัตรูคนอื่น อีกทั้งคนนี้เป็นถึงอดีตรองนายกฯ ควรมีจริยธรรม ไม่ควรมายุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว อย่างไรก็ดีตนเองบอกชื่อไปตรงๆ ไม่ได้ รวมถึงไม่ไปเอ่ยถึงพรรค หรืออยู่ในนายกฯ สมัยไหน เพราะก็ต้องเซฟตัวเองด้วยไม่ให้เป็นคดีความ

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือว่ามีความละเอียดอ่อน มองได้สองมุมว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ชู้สาว แต่อีกมุมหนึ่งคือเป็นถึงอดีตรองนายกฯ แต่อีก 1-2 เดือนจะขึ้นศาลแล้ว ก็เปิดเผยได้ว่าตนไปขึ้นศาลกับใคร ซึ่งลูกความตนมีหลักฐานชัดเจน

โดยสรุปนั้น สำหรับคำใบ้เพิ่มเติมในครั้งนี้ ของนายษิทราก็คือ เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี // เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย // ชอบตีกอล์ฟ // แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพลน์ // ไม่ได้อยู่เพื่อไทย ตั้งแต่ปี 2561 // อายุมากแล้ว

ล่าสุดทางด้านของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี หนึ่งในอดีตรองนายกรัฐมนตรียุคนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ได้ออกมาปฏิเสธ ว่า อย่างแรก ตอนนี้มีอักษรย่อออกมาแล้วคือ “ย “ซึ่งตนไม่ได้มีชื่อนามสกุลหรือชื่อเล่นเป็น “ย” และ ประการที่ 2 ดูจากรูปไม่ใช่ตนเองอย่างแน่นอน เพราะตนมีสัญลักษณ์พิเศษ คือ ลูกกระเดือกยาน แต่คนในรูปลูกกระเดือกปกติ ถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ บริเวณคอของคนในรูปจึงไม่ใช่ตน และ 3.ยิ่งไปกว่านั้นตนไม่เคยคบกับผู้หญิงหรือคบใครที่ทำทรงผมแบบนี้ ส่วนตัวจึงไม่เกี่ยวด้วยประการทั้งปวง แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น

โดย นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงการที่ตนเองถูกเชื่อมโยงไปในเรื่องดังกล่าว ว่า ก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายมันไม่ใช่เรา และส่วนตัวก็ไม่ขอคาดเดาว่าคนในรูปเป็นใคร เพราะคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้บอก.

Back to top button