PRINC เปิดบริการตรวจโควิด 24 ชม. ตั้งเป้าปี 66 ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มเท่าตัว

PRINC ปรับแผนรับนักท่องเที่ยวจีน เปิดบริการตรวจโควิด 24 ชม. พร้อมล่ามภาษาจีนอำนวยความสะดวกลูกค้า ตั้งเป้าปี 66 ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มเท่าตัว ปักธง “พริ้นซ์อีสาน” เป็นเมดิคัลฮับของชาวลาว-กัมพูชา เดินหน้าขยายโรงพยาบาลเพิ่ม


นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทตั้งศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) โรงพยาบาลในเครือ 3 แห่งในช่วงไตรมาส 3/65 ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ และสุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์รับชาวต่างชาติทั้งรูปแบบ Fly-in และ Drive-in ทำให้ปัจจุบันสามารถอำนวยความสะดวกและเพิ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติได้ตามเป้าหมาย และมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าปี 66 เพิ่มจำนวนผู้รับบริการชาวต่างชาติจากเดิม 80% เป็น 100% โดยเฉพาะหลังจากเมื่อจีนเปิดประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขยกเลิกวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ปรับแผนการให้บริการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยและขากลับยังมีข้อกำหนดตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี PCR โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมากที่สุด โดยประกาศเปิดให้บริการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งแบบปกติ และแบบ Express ซึ่ง Express ผลได้ภายใน 2 ชั่วโมง พร้อมมีการจัดตั้งทีมล่ามภาษาจีน เพื่อให้บริการในศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) พร้อมให้บริการรองรับกรณีผู้ป่วยชาวจีนเข้ารับการรักษาโควิด-19

“โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เป็น 1 ในโรงพยาบาลที่ทางสถานทูตจีนวางใจ มีการปรึกษา ติดตามคนไข้อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญ เรามีเครือข่ายและคู่สัญญาประกันและความช่วยเหลือต่างประเทศ พร้อมประสานเรื่องการรักษาและการดูแลสินไหมผ่าน Medical Assistant Company ทั้งของจีนและระดับนานาชาติ และมีคู่สัญญากับโรงแรมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล หากเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถจัดความช่วยเหลือไปได้ทันที รวมถึงจัดหาสถานที่แยกกักตัวกรณีที่ติดเชื้อในรูปแบบ Hotel Isolation หรือสามารถประสานรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ ขึ้นกับความประสงค์ของผู้ป่วย” นายธานี กล่าว

ส่วนอัตราการเติบโตผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะชาวกัมพูชา รวมทั้งนักธุรกิจจีนที่ทำงานอยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามารับการรักษาในรูปแบบ Drive-in ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.65 บริษัทได้มุ่งขยายความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพภาพระหว่างประเทศเพื่อส่งต่อผู้ป่วยจากกัมพูชา มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ โดยร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับหน่วยงาน โรงพยาบาล คลินิก และหอการค้าจังหวัดเสียมเรียบ-อุดรมีชัย เพื่อสร้างเครือข่ายส่งต่อผู้ป่วยมอบสิทธิ์การรักษาเทียบเท่าคนไทย พร้อมบริการการแพทย์ครบวงจรทั้งศูนย์ตรวจสุขภาพ ผ่าตัด รักษามะเร็งและให้เคมีบำบัด โดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง และมีแผนงานร่วมมือพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสุขภาพระหว่างไทย-กัมพูชา

โดยบริษัทตั้งเป้า กลุ่มพริ้นซ์อีสาน ให้เป็นอีสานเมดิคัลฮับของชาวอีสาน ชาวลาวและกัมพูชา ซึ่งปัจจุบัน มีโรงพยาบาลในเครือของพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์รวม 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ, โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และโรงพยาบาลพริ้นซ์ สกลนคร ที่เตรียมเปิดให้บริการปี 66 และมีแผนขยายโรงพยาบาลเพิ่มอีก เพื่อมุ่งขยายบริการสาธารณสุขและให้บริการการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโรคมะเร็งและการรักษาโดยให้เคมีบำบัด โรคทางจักษุ กระดูกและข้อ ฯลฯ เพื่อการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างเท่าเทียม ตามปณิธานขององค์กรที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของผู้ให้

สำหรับศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) เพื่ออำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้รับบริการชาวต่างชาติ ฯลฯ เกี่ยวกับแผนการรักษา, การเดินทาง, ค่าใช้จ่าย, ภาษาและวัฒนธรรม ฯลฯ ทำให้สามารถดูแลผู้ป่วยร่วมกันตั้งแต่การคัดกรอง วินิจฉัยโรคที่แม่นยำ เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ตลอดจนการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประโยชน์ในการรักษาสูงสุด และยังมีการติดตามอาการเมื่อผู้ป่วยกลับบ้านอีกด้วย ทั้งนี้ผู้สนใจข้อมูลสามารถดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ https://inter.princhealth.com/

Back to top button