“นายก” ชี้ไทยเศรษฐกิจดี ส่งเสริม “นักลงทุน” ต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจของไทยยังมีการเติบโต มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และพร้อมส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพื่อกระตุ้นทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจพัฒนาประเทศ


วันที่ 20 ม.ค.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเปรียบเทียบ 4 เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นเครื่องยืนยันไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการ ติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อการกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ และกำชับทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าตามนโยบายทางเศรษฐกิจที่ได้กำหนดไว้ ส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้ประกอบการ ส่งเสริมกระตุ้นทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาประเทศ

สำหรับการเปรียบเทียบเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญตัวแรก ได้แก่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ซึ่งพบว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อยู่ที่ 4.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และสูงกว่ากลุ่มประเทศ Big-4 สหรัฐฯ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 1.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, สหภาพยุโรป อยู่ที่ 2.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, ญี่ปุ่น อยู่ที่ 1.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และจีน อยู่ที่ 3.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยก็ต่ำกว่าสหรัฐฯ ยูโรโซน และค่าเฉลี่ยของ ASEAN-5 (สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย) โดยในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ในขณะที่ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.5 และธันวาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.9

ขณะเดียวกันในส่วนของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศ Big-4 และค่าเฉลี่ยของ ASEAN-5 ของไทยอยู่ในระดับที่ต่ำ เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ โดยในปี 2564 อยู่ที่ 0.50% เดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 1.00 % และธันวาคม 2565 อยู่ที่ 1.25 % และสุดท้าย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI for Manufacturing) ภาคอุตสาหกรรมของไทยอยู่ในระดับที่สูงกว่ากลุ่มประเทศ Big-4 และค่าเฉลี่ย ASEAN-5 และอยู่สูงกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว

โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมถึงโอกาส และแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทย ที่ยังมีการเติบโต มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุน รวมทั้งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างกลไกการทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพ ยั่งยืน และสมดุล

Back to top button