“บล.พาย” คัด 14 หุ้นเด่น วางกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,580-1,620 จุด

“บล.พาย” เฟ้น 14 หุ้นเด่นน่าลงทุน “Domestic Play” วางกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,580-1,620 จุด


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ (10 มี.ค.66) ปิดลบ 1.07% นักลงทุนยังคงกังวลกับสถานการณ์ Silicon Valley ในสหรัฐฯที่อาจกระทบเป็นวงกว้าง แม้ตัวเลขการจ้างงานจะคล้ายกับว่าแสดงการอ่อนแรงก็ตาม ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.46%

สำหรับกรณี Silicon Valley สาเหตุหลักๆเกิดจากการขาดแคลนสภาพคล่องเนื่องจากเจ้าหนี้มีการระดมเงินฝากน้อยลงโดยงบดุลไตรมาส 4/65 ของ SVB พบว่าปริมาณเงินฝากเริ่มชะลอตัวลง ในขณะเดียวกันเจ้าหนี้ส่วนใหญ่แล้วกว่า 50% อยู่ใน Tech, Start Up โดยทาง The Kobeissi Letter ระบุในทวิตเตอร์ว่า 3 อันดับแรกที่ฝากเงินไว้ใน SVB ได้แก่ Circle (3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ), Roku (487 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) BlockFi (227 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการหาข้อมูลของเราพบว่า Roku ขาดทุน 237 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงไตรมาส 4/65 จึงพอจะสรุปได้เบื้องต้นว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ยังเป็น Tech ที่ไม่สร้างกำไรและประสบภาวะ Burn Cash ไปเรื่อยๆการระดมเงินฝากไปยัง SVB จึงน้อยลง

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาความสามารถในการทำกำไรของ SVB พบว่ามิได้แย่มากนักไตรมาส 4/65 กำไรต่อหุ้น (-36% ไตรมาสก่อน, -25.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) แต่สามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดีด้วย NPL / Total Loan เพียง 0.18% และ ROE ราว 12% หากเทียบกับธนาคารพาณิชย์ไทยมี ROE ราว 8-10% และ NPL / Total loan ที่ 3.5%

อนึ่ง Market Capitalization ของ SVB ก็อยู่ที่เพียง 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและเป็น Bank ที่อยู่ 3 อันดับท้ายของ S&P500 ขณะที่ Bank Of America มี Market Capitalization สูงถึง 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เบื้องต้น ณ ข้อมูลล่าสุดทางฝ่ายวิจัยยังประเมินว่าผลกระทบไม่น่ารุนแรงแต่ที่ต้องติดตามจากนี้ได้แก่ (1) ธนาคารอื่นๆเผชิญการถอนเงินจากกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่และธนาคารอื่นๆจะต้องขายตราสารหนี้ออกมาคล้ายกับ SVB หรือไม่ (2) การประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Start Up จะกระทบเป็นวงกว้างเพียงใด

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ติดตาม (1) เงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดที่ 5.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากรายงานต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น (2) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพุธ Bloomberg คาดที่ 5.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากต่ำกว่าคาดก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นเช่นกัน สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,580 – 1,620 จุด เชิงกลยุทธ์ยังเน้น Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) สื่อสาร (ADVANC) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) โรงพยาบาล (BDMS) ร้านอาหาร (M)

CPALL แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท คงประมาณการกำไรปี 66 ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวในย่านท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นภาครัฐก่อนเลือกตั้ง คาดค่าสาธารณูปโภคจะลดลงในครึ่งปีหลัง เพราะต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงตั้งแต่ต้นปี 66

CPN แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท ในแง่การดำเนินงาน CPN ได้รับผลดีจากมาตรการเปิดประเทศของจีนที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยปี 66 ทางฝ่ายวิจัยประเมินรายได้อยู่ที่ 40,917 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12,855 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปี 62 แล้ว และหากนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาหลังจากจีนเปิดประเทศ ทำให้จำนวนผู้เข้าศูนย์ของ CPN ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 85% เป็นเกือบๆ 90% ของช่วงก่อนโควิดได้แล้ว ทำให้การให้ส่วนลดมีโอกาสต่ำกว่าช่วงไตรมาส 4/65 ได้

Back to top button