TIDLOR ลุยขยายพอร์ตสินเชื่อ คุม “หนี้เสีย” ต่ำ 1.5%

TIDLOR รุกนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล ต่อยอด “บัตรติดล้อ” ขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขับเคลื่อนธุรกิจนายหน้าประกันภัยให้โตตามเป้า พร้อมรักษาคุณภาพหนี้ “หนี้เสีย” ต่ำเพียง 1.5%


นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 สะท้อนถึงกลยุทธ์ที่วางไว้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เรามีดำเนินนโยบายพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น เราให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน และปัจจุบันเริ่มเห็นต้นทุนด้านเครดิตและด้านอื่นๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังคงเดินหน้านำเทคโนโลยีมาพัฒนาและยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและความแตกต่างระหว่างเรากับคู่แข่ง

ด้านภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัย ตอบรับเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และความไม่แน่นอนจากปัจจัยมหภาค โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 955 ล้านบาท  เติบโต 16.9% จากไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในไตรมาส 1/2566  เพิ่มขึ้นเป็น 83,040 ล้านบาท เติบโต เติบโต 26.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความสำเร็จของบัตรติดล้อ (TIDLOR Card) ทั้งสำหรับรถมอเตอร์ไซด์และรถยนต์ โดยได้มีการออกบัตรติดล้อให้ลูกค้าแล้วกว่า 532,000 ใบ ส่วนธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มีค่าเบี้ยประกันวินาศภัยสูงถึง 2,070 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา เติบโตเพิ่มขึ้น 28.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ไม่เกิน 5%

“บริษัทฯ ดำเนินนโยบายพิจารณาสินเชื่ออย่างรอบคอบตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราหนี้เสีย (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 1.5% ณ สิ้นไตรมาส 1 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง รวมถึงยังคงอัตราการสำรองหนี้ไว้ในระดับสูงตามเดิม ขณะที่ต้นทุนทางการเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน เป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และบริษัทติดล้อยังคงได้รับการจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง A ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และถือเป็นอันดับที่สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม” นายปิยะศักดิ์ กล่าว

สำหรับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเติบโตธุรกิจและส่งมอบผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัย พร้อมกับกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ในการนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้ง ‘บัตรติดล้อ’ (TIDLOR Card) แอพพลิเคชั่นเงินติดล้อ รวมถึงแฟลตฟอร์มอารีเกเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ทั้งลูกค้าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและลูกค้าประกันภัย รวมถึงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับการบริการทั้งด้านสินเชื่อทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัย เพื่อคงความเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

Back to top button