เปิดโผ 18 บจ. mai กำไร Q1 ทะลักเกิน 1 เท่าตัว AU-BBIK ลุ้นปี 66 โตแกร่ง

ขนทัพ 18 หุ้นกลุ่ม mai โชว์กำไรไตรมาส 1/66 เติบโตเกิน 100% จากช่วงปีก่อน ฟาก PRAPAT โตแรงสุด 73 เท่าตัว ขณะที่โบรกฯคาด AU-BBIK กำไรไตรมาส 2 และปี 66 เติบโตแกร่งต่อเนื่อง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลบริษัทหลักทรัพย์ในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) จากบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2566 เติบโตกว่า 100% หรือ 1 เท่าตัวขึ้นไป เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับบริษัทในกลุ่ม mai ที่มีการนำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 ออกมาจำนวน 171 บริษัท (ข้อมูลจาก SETSMART)  โดยไม่รวมบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนที่อยู่ในกลุ่ม NC พบว่า มีบริษัททำกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ออกมาโตกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 18 บริษัท ได้แก่ PRAPAT, TITLE, SECURE, SANKO, MTW, ARIP, D, ITTHI, TPCH, SMART, BE8, SVR, AU, THANA, APP, BROOK, AUCT และ BBIK เป็นต้น

บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 มีกำไรสุทธิ 14.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,371.88% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.19 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายในส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัวและรายได้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อเพิ่มขึ้นตามการเศรษบกิจการท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้น พร้อมกับในส่วนของรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้นประกอบด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัวและรายได้ค่าบริการผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทในเครือมีการให้เช่าเครื่องล้างจานเพิ่มขึ้นจากธุรกิจร้านอาหาร

บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 มีกำไรสุทธิ 65.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 791.05% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 7.35 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้ของโครงการ The Title หาดราไวย์เฟส5

บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 มีกำไรสุทธิ 27.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 695.92% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3.42 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมกับมีรายได้จากการบริการเป็นรายได้ที่เกิดจากการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยว เนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่าย อย่างครบวงจร และรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น

บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 มีกำไรสุทธิ 16.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 560.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.56 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันเพิ่มขึ้นปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้จาก 18 บริษัทที่สามารถกวาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2566 เติบโตก้าวกระโดดกว่า 100% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน พบว่า แนวโน้มในไตรมาส 2 ปี 2566 และปี 2566 ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกจากนักวิเคราะห์ประเมินไว้ได้แก่ AU และ BBIK  

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” AU ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน พร้อมกับคาดผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 เติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ก่อนจะเข้าสู่ช่วง Low season จากฤดูฝนในไตรมาส  3 ปี 2566 เนื่องจาก AU ยังคงรุกในการขยายสาขา After You โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอีก 3 สาขามาที่ 56 สาขา และมีแผนเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 สาขาในครึ่งปีแรกนี้ และยังมีแผนขยายสาขา Luggaw เพิ่มขึ้นจาก 5 สาขาปัจจุบันอีก 4 สาขา ดังนั้น ด้วยยอดขายที่มีแนวโน้มที่ดีในเดือนเมษายน รวมกับการขยายสาขา ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาที่ 2 ในฮ่องกงภายในเดือนกรกฎาคม และมีความเป็นไปได้ที่จะเปิด 1 สาขาในประเทศเพื่อนบ้านในไตรมาส 3 ปี 2566

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” BBIK คงราคาเป้าหมายที่ 160.00 บาท ประมาณการกำไรปกติปี 2566 อยู่ที่ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน เติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี2566 จะดีขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากทั้งธุรกิจเดิมของ BBIK ที่ยังคงเติบโตได้ดี รวมถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

รวมทั้งจะได้จากผลบวกจาก 2 บริษัทใหม่ ได้แก่ VDD และ Innoviz ที่เริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ. 2566 และจะรับรู้กำไรเต็มที่ในไตรมาส  2 ปี 2566 ซึ่งจะยังคงส่งผลบวกต่อเนื่องในปี 2567 ที่จะมีกำไรเติบโตดีขึ้นเป็น 365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ด้วยสำหรับ backlog ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2566 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่745 ล้านบาท จากสิ้นปี 2565 ที่อยู่ที่ 454 ล้านบาท ซึ่งได้ผลบวกจาก backlog ของ 2 บริษัทใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยจะรับรู้รายได้ในปี 2566 ไม่ตำกว่า 559 ล้านบาท

 

Back to top button