“ขจรศิษฐ์” ไล่เก็บ SA เข้าพอร์ต 4.5 แสนหุ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 130%
“ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” เก็บหุ้น SA เพิ่มอีก 450,000 หุ้น เชื่อมั่นธุรกิจแข็งแกร่ง ปักธงปี 66 รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 130% จากปีก่อน โดยทยอยโอนโครงการคอนโด Landmark @ MRTA Station และกลุ่ม Ready to move พร้อมกับแนวราบอีก 3 โครงการ
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน)หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 14-15 มิถุนายน 2566 ได้ทยอยซื้อหุ้นเข้าพอร์ตต่อเนื่อง โดยเข้าทำรายการ จำนวน 2 ครั้ง รวมจำนวน 450,000 หุ้น โดยสาเหตุที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น เพราะเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจการทำอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง และมีแผนการดำเนินงานทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่ชัดเจน ขณะเดียวกันพร้อมจะเติบโตไปกับบริษัทฯและพัฒนาศักยภาพเพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลักดันให้ผลงานสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ย้ำเป้าหมายรายได้ 6,000 – 6,600 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 130% จากปีก่อน และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจาก เตรียมโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog จากโครงการนี้ประมาณ 4,700 ล้านบาท คาดเตรียมทยอยโอนภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ประกอบกับโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เตรียมทยอยโอนอีก 3 โครงการ นอกจากนี้มีกลุ่ม Ready to move และกลุ่มธุรกิจบริการอื่นๆ เข้ามาสนับสนุนอีกจำนวนมาก
โดยในส่วนของแผนระยะยาว บริษัทฯ เดินหน้าแผนปรับสัดส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูงและแนวราบ เป็นสัดส่วน 50% ให้สำเร็จภายใน 3 ปีเพื่อสร้างสมดุลรายได้ และกระจายความเสี่ยงจากการรับรู้รายได้จากโครงการแนวสูงเพียงอย่างเดียว พร้อมกันนี้บริษัทฯ วางแผนขยายกิจการพอร์ตโรงแรมและร้านอาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรายได้ประจำเข้ามาอีกช่องทาง
อีกทั้ง บริษัทฯ วางนโยบายการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสีเขียว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน น้ำ และลดการใช้พลังงานในการผลิตวัสดุก่อสร้าง เลือกใช้ Materials ที่ช่วยลดผลกระทบจากคาร์บอนให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งในอนาคตอาคารประหยัดพลังงานจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป
นายขจรศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบ-แนวสูง โดยมีโครงการที่กำลังพัฒนาทั้งหมด 11 โครงการ เป็นแนวราบ 4 โครการ และแนวสูง 6 โครงการ และโรงแรม 1 โครงการ ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยทุกโครงการที่พัฒนาเล็งเห็นถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสำคัญโดยใช้หลักธรรมภิบาลและใจจริงซื่อตรงในการบริหารงาน เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
