ครม. เคาะร่างปฏิญญาฯ พัฒนาระบบนิเวศ EV ภูมิภาค

ครม. รับทราบผลประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 22 พร้อมเห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ระดับภูมิภาค เสริมเป้าหมายไทยผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 30% ในปี 73


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Council: AEC Council) ครั้งที่ 22 โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

1.ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคอาเซียน คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียน (พ.ศ.2565-2567) จะมีการขยายตัวในระดับปานกลางที่ 5.6% ในปี 65 เป็น 4.7% ในปี 66 และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 5.0% ในปี 67 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงจาก 5.0% ในปี 65 เป็น 4.4% ในปี 66 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 3.3% ในปี 67

2.ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่อินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ผลักดันให้บรรลุผลสำเร็จในปี 66 (Priority Economic Deliverable: PEDs) จำนวนทั้งสิ้น 16 ประเด็น โดยอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน จำนวน 7 ประเด็น เช่น การลงนามพิธีสาร ฉบับที่ 2 เพื่อปรับปรุงความตกลงการค้าเสรี อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการจัดทำแถลงการณ์ผู้นำอาเซียน ว่าด้วยการจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน

3.วาระที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล เน้นย้ำความสำคัญของวาระเศรษฐกิจดิจิทัล โดยขอให้เร่งศึกษาประโยชน์และผลกระทบของการจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนให้เสร็จภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าการประกาศเริ่มเจรจาความตกลงดังกล่าว ภายในการประชุม AEC Council ครั้งที่ 23 ในเดือน ก.ย. 66

4.วาระที่เกี่ยวกับความยั่งยืนของอาเซียน ติดตามความคืบหน้า เช่น แผนปฏิบัติการตามกรอบ เศรษฐกิจหมุนเวียนของอาเซียน ซึ่งจะใช้กับ 3 สาขา ได้แก่ ภาคเกษตร พลังงาน และขนส่ง อีกทั้งการจัดตั้งหน่วยงาน ประสานงานหลักของประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนการจัดทำยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน

5.การจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ภายหลังปี 68 พิจารณาองค์ประกอบหลักในส่วนของเสาเศรษฐกิจ จำนวน 6 องค์ประกอบ เช่น การยกระดับเศรษฐกิจให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน การส่งเสริมเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืน และตอบสนองต่อสภาพภูมิอากาศ การผลักดันให้อาเซียนเป็นประชาคมดิจิทัลชั้นนำ การมีบทบาทเชิงรุกในประชาคมโลก โดยมีอาเซียนเป็นแกนกลาง

6.เอกสารผลลัพธ์ที่ประชุมได้รับรอง และให้ความเห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ รับรองร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงาน สำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ในส่วนของเสาเศรษฐกิจเห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียน ว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค ซึ่งเสนอให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ให้การรับรองระหว่างวันที่ 10-11 พ.ค. 66

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ เห็นว่าอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียน ผลักดันประเด็นความยั่งยืนอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งหลายประเทศสมาชิก เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ต่างมีนโยบายสนับสนุนการใช้งานและการผลิตอย่างจริงจัง รวมทั้งไทย ที่ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 30% ของปริมาณการผลิตภายใน 2573

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมนโยบายที่ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ยกระดับองค์ความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของผู้ผลิต และแรงงานไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย เพื่อให้สามารถเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคอาเซียนด้วย

Back to top button