สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ก.ย.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ก.ย.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (15 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มชิปร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ส่งผลกดดันหุ้นอะเมซอน และหุ้นของบริษัทเติบโตรายใหญ่อื่น ๆ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,618.24 จุด ลดลง 288.87 จุด หรือ -0.83%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,450.32 จุด ลดลง 54.78 จุด หรือ -1.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,708.34 จุด ลดลง 217.72 จุด หรือ -1.56%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (15 ก.ย.) และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ดีเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทสินค้าหรูหรา และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใกล้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 461.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด หรือ +0.23% และปรับตัวขึ้น 1.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,378.82 จุด เพิ่มขึ้น 70.15 จุด หรือ +0.96%, ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,893.53 จุด เพิ่มขึ้น 88.24 จุด หรือ +0.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,711.38 จุด เพิ่มขึ้น 38.30 จุด หรือ +0.50%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (15 ก.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นขานรับจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ แนวโน้มที่ธนาคารกลางทั่วโลกใกล้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,711.38 จุด เพิ่มขึ้น 38.30 จุด หรือ +0.50% โดยอยู่ที่ราวระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (15 ก.ย.) และทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในปีนี้ รวมถึงปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันท่ามกลางความวิตกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565 และพุ่งขึ้น 3.7% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.93 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 3.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (15 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสัญญาทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,946.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 0.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 39.20 เซนต์ หรือ 1.70% ปิดที่ 23.386 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ หรือ 2.02% ปิดที่ 929.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,252.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (15 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง และนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.06% แตะที่ระดับ 105.3192

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและโครนาสวีเดน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน, ปอนด์, ฟรังก์สวิสและดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 147.8570 เยนในวันศุกร์ (15 ก.ย.) จากระดับ 147.4410 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 0.8972 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.8962 ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3516 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3509 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 11.1821 โครนาสวีเดน จากระดับ 11.2022 โครนาสวีเดน

ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0660 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0636 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2402 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button