ORN เทรดวันแรก ลุ้นวิ่งเป้า 2.20 บาท มั่นใจพื้นฐานแกร่ง

ORN พร้อมลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นวิ่งเป้า 2.20 บาท มั่นใจพื้นฐานแกร่ง หลังระดมทุน 605 ล้านบาท ลุยนำเงินพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพื้นที่เชียงใหม่ ทั้งแนวราบ-คอนโดมานานกว่า 17 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ต.ค.66) บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีทุนชำระแล้วหลัง IPO 1,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,093.5 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 406.5 ล้านหุ้น โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2566 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.49 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 605.69 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,235 ล้านบาท

ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 5.73 เท่า โดยคำนวณจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯยินดีต้อนรับ ORN เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้(30 ตุลาคม 2566)เป็นวันแรก โดย ORN ประกอบธุรกิจการลงทุนถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก

โดยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ บีลีฟ, ฮาบิแทท และดิ เอสเคป เป็นต้น และโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูงทั้ง Low Rise และ High Rise ภายใต้แบรนด์เดอะ เน็กซ์, ดิ แอสตร้า และอะไรซ์ โดยพัฒนาโครงการให้สอดคล้องตามลักษณะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ ORN มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างขายทั้งหมด 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายรวม 2,244 ล้านบาท และโครงการในอนาคตที่มีแผนจะเปิดดำเนินการภายในปี 2567 จำนวน 9 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,164 ล้านบาท

ด้านนายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงรุกมากขึ้น สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนของกลุ่มบริษัท โดย ORN มีแผนที่จะนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินเปล่าในทำเลที่มีศักยภาพ และนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทที่อยู่อาศัย รวมถึงใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของภาคเหนือ

โดย ORN มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะของบริษัท ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นกับกระแสเงินสด แผนการลงทุน เงื่อนไขทางกฎหมาย และการจ่ายเงินปันผลนั้นจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มนายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ถือหุ้น 68.83% 2) นางสาวอรอนงค์ อุดมศิริธำรง ถือหุ้น 3.67% และ 3) กลุ่มครอบครัวพาณิชย์พิศาล ถือหุ้น 0.21% โดยทั้ง 3 ลำดับเป็นกลุ่มครอบครัวพี่น้องของผู้ก่อตั้ง

ด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า เชื่อว่า ORN จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน จากจุดเด่นการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในโครงการทุกรูปแบบ สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับกลาง-ระดับบน มีฐานลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะโครงการแนวสูง ที่มียอดขาย Foreign Quota เต็มทุกโครงการ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วภายหลังเปิดตัวโครงการ อีกทั้งยังมีที่ดินในมือกว่า 600 ไร่ ราคาประเมินสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีกว่า 1,340 ล้านบาท ขณะที่มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง แนวโน้มกำไรเติบโตทุกปี และมี D/E ต่ำเพียง 0.77 เท่า จึงมั่นใจว่า ORN จะมีโอกาสขยายธุรกิจอีกมากหลังระดมทุน

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วมของ ORN เปิดเผยว่า ORN เชื่อว่านักลงทุนจะให้การตอบรับหุ้น ORN เป็นอย่างดี ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนได้จองซื้อหุ้นครบทั้งจำนวน 406.50 ล้านหุ้น เนื่องจากราคาเสนอขายเหมาะสมสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน และปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่เข้มแข็ง จากความสามารถในการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด

ทั้งนี้โบรกเกอร์เคาะราคาเป้าหมาย ORN เฉลี่ย 1.74-2.20 บาทต่อหุ้น  โดยชูจุดเด่นพัฒนาอสังหาริมรัพย์ฯชั้นนำในพื้นที่เชียงใหม่ ทั้งโครงการแนวราบ และคอนโด มีการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 17 ปี โดยจากมุมมองโบรกเกอร์ 6 แห่ง ที่ได้ Company Visit และจัดทำบทวิเคราะห์ออกมาและให้ราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานไว้ค่อนข้างสูงจากราคาจองที่ 2.20 บาท ดังนี้

บล.ยูโอบี เคย์ เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN บริษัทพัฒนาอสังหาฯชั้นนำในพื้นที่เชียงใหม่ พร้อมเร่งเปิดตัวโครงการในช่วงปี 66-67 กว่า 9 โครงการมูลค่ารวมกล่า 5.1 พันล้านบาท รับการฟื้นตัวของกำลังซื้อตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายเมือง คาดแนวโน้มกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อปี 12% CAGR ในช่วงปี 66-68 ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 2.20  บาท

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการแนวราบ และคอนโด มีการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 17 ปี ทุกโครงการอยู่ใน จ.เชียงใหม่ สำหรับกำไรปี 63-65 มีการเติบโดโดดเด่นเฉลี่ย 48% CAGR และแนวโน้มการเติบโตยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจาก 1) เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่ ที่กลับมาเติบโต ช่วยหนุนธุรกิจอสังหาฯ ให้เติบโตดีขึ้น, 2) ที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่ดีส่งผลให้ยอดขายได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่มีการกระจายลูกค้าหลากหลาย ส่วนใหญ่ในตลาดกลาง-บน รวมถึงเน้นลูกค้าต่างชาติ, 3) ยังมีที่ดินรอการพัฒนาที่มีต้นทุนต่ำและอยู่ในทำเลที่ดีมากถึง 613 ไร่ มีมูลค่าสุทธิตามบัญชี 529 ล้านบาท

ขณะที่ราคาประเมินล่าสุดอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ส่งผลให้โครงการยั้งได้การตอบรับดีและมี GPM สูง และ 4) ปัจจุบันมีโครงการพร้อมขาย 18 โครงการ และปี 66-67 จะมีการเปิดโครงการใหม่มากถึง 9 โครงการ มูลค่ารวม 5.2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เริ่มรับรู้รายได้ปี  2567 โดยประเมินยอดโอนปี 2567 เติบโตดี 29% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินกำไรปี 66 จะอยู่ที่ 223 ล้านบาท และปี 2567 เติบโตดีและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 321 ล้านบาท โต44% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปี 66-67 เพิ่มขึ้นมาก และ GPM ยังคงสูงมากกว่า 40% ได้ต่อเนื่อง โดยยอดโอนจะเป็นสัดส่วนบ้าน 66%, คอนโด 34% ทั้งนี้าประเมินราคาเหมาะสม ORN ปี 2024E ที่ 1.74 บาท

บล. ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ครอบคลุมโครงการแนวราบและแนวสูงในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ประสบการณ์ในแวดวงกว่า 17 ปี ประเมินมูลค่าหุ้น อิง PER 8.0 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 2024 ที่ 1.80 บาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 1.80 บาท มอง ORN มีความน่าสนใจจาก ความพร้อมทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาปัจจุบันและแผนเปิดโครงการใหม่ในอนาคตที่มาก โดยมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 1.13 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับโอกาสเติบโตของอสังหาฯ ในเชียงใหม่ รวมถึงมีโอกาสเพิ่ม market share ได้ต่อเนื่อง จากการเปิดโครงการอย่างต่อเนื่องและ aggressive กว่าคู่แข่ง โดยคาดกำไรสุทธิ 2567 โต 45% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและทำ new high ได้ต่อเนื่องในปี 67-69

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 ที่ 227 ล้านบาท และปี 2567 โตเด่น 45.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 330 ล้านบาท โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 1.82 บาท โดยอิง ค่าเฉล่ยี PBV หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯเพื่อการขาย 10 บริษัทรายใหญ่ที่ 1.02 เท่า

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ORN บริษัทประกอบธุรกิจอสังหาฯในจังหวัดเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน ทำให้มีต้นทุนที่ดินที่ต่ำและมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในเชียงใหม่ ณ ปี 2565 บริษัทฯเพิ่มทุน 406.5 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯ ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้หลายเท่า และบริษัทฯมี D/E ที่ต่ำจะทำให้สามารถระดมเงินทุนโดยมีต้นทุนที่ต่ำ เพื่อขยายโครงการใหม่ๆได้อีกมากหลังจากเข้าตลาดฯ คาดกำไรปี 2566 ไว้ที่ 210 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2567 ไว้ที่ 325 ล้านบาท โต 54.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 1.91 บาท/หุ้น

Back to top button