MTC โชว์สินเชื่อ Q3 ขยายตัวตามเป้า รุกขยายสาขาดันพอร์ดปี 67 โต 20%

MTC ตั้งเป้าปี 67 พอร์ตสินเชื่อโต 20% ตามเป้า กางแผนเพิ่มเรตติ้งหุ้นกู้ขึ้นระดับ A- ภายใน 3 ปี จากปัจจุบัน BBB+


นายกฤษดา คุรุจิตโกศล นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 9 พ.ย.66 ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/66 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 138,742 ล้านบาท เติบโต 21.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำได้ตามเป้าหมายที่พอร์ตสินเชื่อเติบโต 20% ในปี 66 โดยพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตขึ้นมาจากสินเชื่อที่มีหลักประกัน

อาทิ ที่ดิน รถยนต์ และรถมอเตอร์ไซด์ ซึ่งบริษัทได้เน้นความระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 6,299 ล้านบาท เติบโต 21.49% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนจำนวนสาขาในไตรมาส 3/66 มีทั้งสิ้น 7,365 สาขา สูงกว่าเป้าหมายการเปิดสาขาปี 66 ให้เป็น 7,200 สาขา ขณะที่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดูทำเลเหมาะสมในการเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก ซึ่งการขยายสาขาในแต่ละพื้นที่จะมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 1 ปี รวมทั้งศูนย์ประมูลในปี 66 ได้เปิดเพิ่มขึ้น 2 สาขา ที่ร้อยเอ็ดและสุราษฎร์ธานี ซึ่งการเปิดศูนย์ประมูลเพิ่มเพื่อหา Agent ในพื้นที่ใหม่ ๆ เข้ามา

ด้าน นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ MTC เปิดเผยว่า ในปี 67 บริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อเติบโต 20% ขณะที่มีเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าจะผลักดันอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทขึ้นไปเป็น A- จากเดิม BBB+

โดยในไตรมาส 3/66 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของหนี้เสีย (NPL) สะท้อนว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแม้ว่าไม่ได้ฟื้นอย่างรวดเร็ว แต่คาดว่าจะส่งผลบวกให้กับบริษัท ซึ่งบริษัทตั้งเป้า NPL ในปี 67 จะต้องลดลงเหลือต่ำกว่า 3% โดยจะติดตามทิศทาง NPL ในแต่ละไตรมาสอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องและยอดการรับชำระเงินจากลูกค้า พบว่าตัวเลขจนถึงปัจจุบันมีทิศทางที่ดี แต่ยอมรับว่าการที่ NPL จะลดลงไปต่ำถึง 1% อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร

อนึ่งไตรมาส 3/2566 บริษัทมีกำไร 1,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1,205 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยในการให้บริการสินเชื่อและสัญญาเช่าซื้อ จำนวน 6,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวของปีก่อนก่อนอยู่ที่ 4,959 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จำนวน 218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 206 ล้านบาท

Back to top button