THAI จับมือ OR นำร่องใช้เชื้อเพลิง SAF เที่ยวบิน “ภูเก็ต-กรุงเทพฯ”

THAI จับมือ OR นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน “SAF Flight” เที่ยวบินเส้นทาง “ภูเก็ต-กรุงเทพฯ” ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 80% หนุนเป้าหมาย “Net Zero” ไทย ปี 2593


นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ร่วมเป็นประธานในการจัดเที่ยวบินนำร่องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF Flight) ในเที่ยวบิน ของการบินไทย เส้นทาง ภูเก็ต-กรุงเทพฯ โดยมี นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร THAI นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และ นายทรงพล เทพนำโสมนัสส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจเอนเนอร์ยี่โซลูชัน OR พร้อมฝ่ายบริหารของทั้งสองหน่วยงาน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในงาน ณ สนามบินนานาชาติภูเก็ต

โดย THAI ร่วมมือกับ OR ในการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน “Sustainable Aviation Fuel (SAF)” มาใช้นำร่องกับเที่ยวบินของการบินไทยในเส้นทางภูเก็ต-กรุงเทพฯ เพื่อแสดงถึงการตระหนักในความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและการร่วมลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยเชื้อเพลิง “SAF” มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตน้อยกว่าเชื้อเพลิงอากาศยานโดยทั่วไป และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงโดยปกติ อีกทั้ง สามารถใช้ผสมในน้ำมันเครื่องบินในปัจจุบัน (Jet A1) ได้ทันทีและมีความปลอดภัย

ทั้งนี้ การจัดเที่ยวบินที่ใช้เชื้อเพลิง “SAF” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ “Net Zero” ภายในปี พ.ศ. 2593 หรือ ค.ศ. 2050 และเป็นไปตามมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) สอดคล้องกับที่สหภาพยุโรปกำหนดสัดส่วนการผสมเชื้อเพลิง “SAF” ในน้ำมันอากาศยานที่จะทำการบินออกจากสนามบินในสหภาพยุโรปซึ่งมีการเพิ่มสัดส่วนอย่างต่อเนื่อง โดยการบินไทยมีความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ผ่านมาตรการเชิงรุกที่สำคัญที่จะทยอยตามมาอีกในอนาคต

Back to top button