PTG ผนึก “ไพศาล” ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อ “รถบรรทุกมือสอง” ปีนี้โต 30%

PTG จับมือ “ไพศาล แคปปิตอล” ลงนามเปิดตัวสินเชื่อ “รถบรรทุกมือสอง” หวังปั้นพอร์ตเติบโต 30% ต่อปี จ่อขยายสาขา “อุดรธานี-ขอนแก่น” ปักหมุด 2-3 ปีข้างหน้าโตเท่าตัว พร้อมเตรียมนำ “ไพศาล” เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 50,000,000 หุ้น หรือเข้าถือสัดส่วน 33.33%  ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในไพศาล  มูลค่าลงทุน 825 ล้านบาท เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง

สำหรับการร่วมมือกับ บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของบริษัทฯ ที่นำไปสู่การดำเนินธุรกิจสินเชื่อ โดยสิ่งสำคัญที่ PTG ได้รับกลับ คือ การ diversify จากธุรกิจน้ำมัน สู่ธุรกิจ Non-oil เป็นการโดยการเข้าซื้อหุ้นของไพศาลมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเติบโตอนาคต สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน และต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ของบริษัทฯ เพื่อขยายความหลากหลายของบริการให้ลูกค้าอยู่ดีมีสุข

“บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญในการขยายช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจหลักในอนาคตได้โดยมีความตั้งใจจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางใหม่สำหรับลูกค้าซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่ปัจจุบันมีฐานสมาชิกกว่า 20 ล้านสมาชิก ได้เข้าถึงบริการที่มีศักยภาพ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจและแบรนด์ PTG ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายปี 2569-2570 จะมีฐานสมาชิกบัตร Max Card เพิ่มเป็น 33-34 ล้านสมาชิก” นายพิทักษ์ กล่าว

ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า บริษัทมองที่การร่วมมือกับพันธมิตรและการเติบโตของธุรกิจเป็นจุดมุ่งหมาย เป็นผู้ขับเคลื่อนพลัง และสร้างความเติบโตให้กับบริษัททั้งคู่ โดยการใช้ทรัพยากรเดิม และความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทเพื่อลดความเสี่ยง โดยความร่วมมือปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกมือสองครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ และประเมิณว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 1/2567

ขณะที่ในส่วนของธุรกิจปั๊มน้ำมัน (Oil) บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายน้ำมันในปี 2567 จะเติบโตขึ้น 10-12% เป็นผลมาจากลูกค้าบัตร PT Max card  และPT Max card Plus พร้อมกับมีการขยายสถานีบริการปั๊มน้ำมันพีทีที่เพิ่มขึ้น 30-50 สาขาในปี 2567 โดยเป็นการปรับปรุงสถานีบริการเดิมให้ทันสมัยและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้นได้

นายรังสรรค์ กล่าวเพิ่มว่า บริษัทคาดการณ์ในส่วนของธุรกิจ Non-oil ว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรขั้นต้นมากกว่า 25% โดยเงินลงทุนในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ใช้ขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยในปีนี้เพิ่มเป็น 1,500 สาขา จากเดิม 900 สาขาในปี 2566 ซึ่งมองว่ายอดขายร้านกาแฟจะเติบโตมากกว่า 80% ในปี 2567 และบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อที่เติบโตนอกเหนือและหลากหลายมากกว่ารถบรรทุกมือสองได้ในอนาคต

ขณะที่นายสุกฤษฏิ์ เหรียญภิญญวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับ PTG ครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันในการร่วมสร้างโอกาสทางการเงินให้กับผู้ลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งไปพร้อมกันๆ ทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญช่วยเพิ่มพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพของ PTG  ที่มีความต้องการขยายธุรกิจและสร้างแบรนด์ของไพศาลให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่า PTG  จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นผลดีต่อบริษัทไพศาลทั้งในเรื่องการเพิ่มแหล่งเงินทุน จะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนต่ำ รวมถึงการเพิ่มชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทมากขึ้น โดยบริษัทจะนำเงินทุนที่ได้จาก PTG ไปขยายพอร์ตสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง จากรถที่มีอายุมากกว่า 15 ปี (ปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 4-5 ปี) เข้าไปในกลุ่มรถบรรทุกที่มีอายุน้อยกว่า 15 ปีด้วย รวมถึงการเพิ่มตัวแทน (Dealer) หรือเพิ่มสาขา

โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีพอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อกว่า 2,600-2,700 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรถบรรทุกมือสองนี้จะเติบโต 30% ต่อปี และขยายเพิ่มอีกเท่าตัวภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะตรงกับที่บริษัทวางเป้าหมายที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการทำ Internal Control และการเจรจากับที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถบรรทุกมือสองอายุมากกว่า 15 ปี โดยบริษัทฯ มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 10-15% ของรถบรรทุกที่มีอายุมากกว่า 15 ปี และจำนวนรถบรรทุกมือสองภายในพอร์ตอยู่ที่ 34,000 คัน อีกทั้งบริษัทมองโอกาสการขยายสาขาผ่านช่องทางสถานีบริการน้ำมัน PTG ที่มีกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขาไปยังอีสานตอนเหนืออีก 2 สาขาหลังจากได้เงินเพิ่มทุนจาก PTG ไปยังจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่หลักๆ ที่ใช้รถบรรทุกจำนวนมาก ส่วนธุรกิจประกันจะนำไปพัฒนาระบบให้มีมาตรฐานมากขึ้นเพื่อกระจายสู่ลูกค้าใหม่ ด้วยวิธีการคัดกรองคุณภาพรถบรรทุกจากเจ้าหน้าที่และส่วนกลางของบริษัทเพื่อช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาจำนวนทั้งสิ้น 9 สาขา ครอบคลุมเกือบทุกภาคของประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี กลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้รถบรรทุกเชิงพาณิชย์ ขนส่งก่อสร้าง ตลอดจนเกษตรกรรม หรือลูกค้ารถบรรทุกเดิมที่มีประวัติใช้บัตร PT Max card  และPT Max card Plus ของ PTG

อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายธุรกิจสินเชื่อโดยจะเพิ่มในส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งระหว่างนี้บริษัทอยู่ในขั้นตอนยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อดังกล่าวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคาดการณ์ว่าจะรับใบอนุญาตในช่วงกลางปี 2567

“ทั้งนี้ บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง สินเชื่อเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ และสินเชื่อ Refinance ดำเนินธุรกิจมา 21 ปี มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อในระดับประเทศและภูมิภาค และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ หรือแหล่งเงินกู้ ภายใต้วิสัยทัศน์เป็นแบรนด์ที่มั่นคง ดำเนินกิจการอย่างมีจรรยาบรรณ จริงใจและมีความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่ผู้บริโภค โดยบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของสังคมไทยด้วยการให้ความคล่องตัวทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ”  นายสุกฤษฏิ์ กล่าว

Back to top button