คัด 14 หุ้นหลบภัย “ปันผลสูง” ยีลด์เกิน 4%

คัด 14 หุ้นหลบภัย “ปันผลสูง” ยีลด์เกิน 4% พ่วงพื้นฐานแกร่ง อีกทั้งเป็นหุ้นมี ESG Rating อยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่หุ้น SIRI อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 10.50% รองลงมา TISCO ยีลด์ 7.96%


วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงแรงปิดที่ระดับ 1,380.65 จุด ลบไป 21.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.67 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรับ Sentiment เชิงลบ เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสนับสนุนประเด็นที่ว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ย และยังต้องใช้ความระมัดระวัง

รวมทั้งการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนออกมาค่อนข้างต่ำกว่าที่ตลาดคาด และราคาบ้านของจีนปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 9 ปี สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ขณะที่ในประเทศไร้ปัจจัยใหม่หนุน และนโยบายต่าง ๆ น่าจะล่าช้าออกไป โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเป็นลบมากกว่าบวก

ขณะเดียวกันภาพรวมตลาดหุ้นไทยยามนี้ถือว่ายังมีความผันผวน หนึ่งในหลุมหลบภัยอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนนึกถึง คือ “หุ้นปันผลสูง” ดังนั้นทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ทำการศึกษา  โดยการเปรียบเทียบผลตอบแทนในยามที่ตลาดหุ้นลงแรงๆ ตัวแทนหุ้นปันผลอย่าง SETHD TRI Index (ดัชนีหุ้นปันผลสูงที่มีการบวกปันผลกลับ) ผันผวนน้อยกว่าตลาดฯ หรือ SET TRI Index (ดัชนีหุ้นปันผลสูงที่มีการบวกปันผลกลับ) มาก อาทิ ในปี 2566 SET TRI -12.66% แต่ SETHD TRI ผันผวนน้อยกว่ามาก -1.94% เป็นต้นไป

นอกจากนี้ถ้าหา Timing ที่เหมาะสม ในการสะสมหุ้นปันผลตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา พบว่าช่วงเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. เป็นจุดที่น่าสะสมหุ้นปันมากสุด โดย SETHD TRI ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 4.9% และทิ้งห่าง SET Index ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.1% ราว 1.8% แม้ในระยะถัดไปจะย่อตัวบ้าง แต่ภาพรวมระยะยาวหุ้นปันผลสูงยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดฯ

ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ ทำการคัดกรองหุ้นปันผลสูงน่าลงทุนดังนี้ 1. เป็นหุ้นปันผลสูง โดยมี Dividend Yield มากกว่า 4% ต่อปี2. เป็นหุ้นพื้นฐานดี โดยฝ่ายวิจัยแนะนำ Outperform และ 3.เป็นหุ้นมี ESG Rating อยู่ในเกณฑ์ดี รับกระแสการลงทุนพร้อมกับเม็ดเงินใหม่ๆ หนุน (ESG Rating มากกว่า A)

สำหรับหุ้นปันผลสูง พื้นฐานดี ESG Rating เด่น ได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงถึง 10.50% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม 2.20 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 1.73 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 27.16% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 7.96% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม 106.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 98.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 8.16% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AAA

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 7.59% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม 12.20 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 8.45 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 44.37% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 7.20% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม 4.80 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 3.26 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 47.23% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 7.14% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  27.30 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 19.30 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 41.45% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 6.96% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  10.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 7.65 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 30.71% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ A

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 6.17% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  91.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 71.50 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 27.27% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.90% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  16.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 11.30 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 41.59% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.82% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  160.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 135.50 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 18.08% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.52% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  7.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 3.48 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 101.14% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ A

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.03% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  20.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 14.50 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 37.93% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 4.02% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  266.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 213.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 24.88% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AAA

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 4% ทางคำแนะนำ “Outperform” โดยให้ราคาเหมาะสม  199.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 148.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 34.45% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AA

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ในส่วนของอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.33% ทางคำแนะนำ “Neutral” โดยให้ราคาเหมาะสม  180.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 17 ม.ค. 67 อยู่ที่ 148.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 21.62% และยังเป็นหุ้นมี ESG Rating ในเกณฑ์ AAA

Back to top button