JKN ฟ้องกลับ “ไทย เดสติเนชั่น” เรียก 10 ล้าน ฐานหมิ่นประมาท จี้หน่วยงานสอบใบอนุญาตทำทัวร์

“เจ๊แอน” ผู้บริหาร JKN จ่อฟ้องกลับบริษัททัวร์ “ไทย เดสติเนชั่น” ฐานหมิ่นประมาท เป็นเงิน 10 ล้านบาท พร้อมแจ้งหน่วยงานพิเศษเข้าตรวจสอบใบอนุญาตทำธุรกิจทัวร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค. 67) บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Anne Jakrajutatip ระบุว่า “เจเคเอ็นประกาศฟ้อง บมจ.ไทย เดสติเนชั่น (Thai Destination) และผู้แนะนำบริษัทนี้มาร่วมงาน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน….ในข้อหาคดีหมิ่นประมาทเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท พร้อมแจ้งหน่วยงานพิเศษสั่งตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการธุรกิจทัวร์ ขออนุญาตเอาจริงกับพวกจอมมั่วทุกคนนะคะ…ทนมานานแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ”

นอกจากนี้ ยังออกหนังสือแถลงการณ์ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่มีบริษัททัวร์ได้แถลงข่าวว่า ถูกผู้บริหารของบริษัทหลอกให้สำรองจ่ายเงินไปกว่า 1,450,000 บาท และเมื่อติดต่อทวงถามก็ถูกปฏิเสธจากผู้บริหารและจาก คุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และมีการรับปากว่าโครงการ Hello Universe Tour จะมีคนจำนวน 1,000 คน เดินทางไปประเทศเม็กชิโก แต่พอถึงเวลาจริงทั้งคณะกลับมีคนแค่ 30 คน ซึ่งผิดไปจากข้อตกลง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงตามที่บุคคลดังกล่าวได้นำเสนอนั้นไม่เป็นความจริง ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1.บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงร่วมกับบุคคลดังกล่าวเรื่องการจัดทำและจัดจำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ ณ ประเทศเอลซาวาตอร์ ในโครงการ Hello Universe Tour โดยบริษัทฯ มีหน้าที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ทัวร์ผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัทฯ ส่วนบุคคลดังกล่าวมีหน้าที่จัดทำแพ็กเกจทัวร์ ติดต่อประสานงานกับผู้ประกอบการต้านการท่องเที่ยว ปฏิบัติการทัวร์ รับจองทัวร์ เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายตั๋วท่องเที่ยว และเป็นผู้รับเงินจากลูกค้าที่จองซื้อทัวร์ทั้งหมด

โดยมีเงื่อนไขการแบ่งผลประโยซน์ (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ให้บริษัทฯ ในอัตราร้อยละ 60 และแบ่งผลประโยชให้แก่บุคคลดังกล่าวในอัตราร้อยละ 40 ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ในการรับเงินจากลูกค้าโดยตรง พร้อมจัดทำสรุปรายรับ, รายจ่าย, ยอดเงิน คงเหลือ ให้กับบริษัทฯ ทราบ

2.ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้รับเงินจากการจัดจำหน่ายทัวร์จากลูกค้าจนครบถ้วนแล้ว บริษัทฯ จึงได้มีการติดตามให้บุคคลดังกล่าวจัดส่งสรุปรายรับ รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือให้กับบริษัทฯ ทราบ แต่บุคคลดังกล่าวกลับเพิกเฉยไม่จัดทำรูปให้กับบริษัทฯ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 บุคคลดังกล่าวได้เข้ามาประชุมร่วมกับบริษัทฯ พร้อมกับได้แสดงสรุปรายรับและค่าใช้จ่ายด้วยเอกสารเพียง 1 แผ่น

พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทฯ ชำระเงินค่าใช้จ่ายส่วนเกินประมาณ 1,400,000 บาท ในทันที ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งกับบุคคลดังกล่าวว่าจะต้องนำเอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการรับชำระเงินค่าทัวร์จากลูกค้า, เอกสารค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ มาแสดงต่อบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ ทำการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่บริษัทฯ จะดำเนินการชำระเงินค่าใช้จ่ายส่วนเกิน (ถ้ามี) ได้

3.ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 บุคคลดังกล่าวได้จัดส่งรายงานสรุปรายรับและค่าใช้จ่าย พร้อมเอกสารประกอบการตรวจสอบให้แก่บริษัท “แต่จากการตรวจสอบรายงานและเอกสารประกอบกับพบความผิดปกติของคำใช้จ่ายหลายรายการ อาทิ

3.1ยอดเงินภาษีขาย โดยบุคลดังกล่าวเรียกเก็บจากลูกค้ามาแล้ว แต่กลับแจ้งรวมมาในค่าใช้จ่ายให้ชำระเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการคิดภาษีชายซ้ำซ้อน

3.2 ค่าทิป (ค่าตอบแทนตามความพึงพอใจ) ที่บุคคลดังกล่าวชำระให้แก่ผู้ให้บริการรายอื่นตามอำเภอใจ, ไม่ใด้กำหนดวงเงินให้ชัดเจน และไม่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ

3.3 ค่าใช้จ่ายตามใบเสร็จ/บิลเงินสด ที่ไม่สามารถบอกแหล่งที่มาในการนำเงินไปชำระได้อย่างชัดเจน

3.4 ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทัวร์

3.5 คำจัดทำเว็ปไซต์สำหรับจองทัวร์ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบด้วยระบบของตนเอง

3.6 เบิกเงินค่าอาหารซ้ำซ้อนกันหลายรายการเป็นเงินจำนวนหลายแสนบาท

3.7 ไม่มีการเปรียบเทียบราคาค่าห้องพัก ค่าตั๋วเครื่องบิน มาให้บริษัทฯ พิจารณา

3.8 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ที่เป็นค่าใช้ส่วนตัวทีมงานของบุคคลดังกล่าว อาทิ ค่ากระเป๋าถือค่าเดินทางกลับและค่าทางด่วนของพนักงาน ค่าขนม เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แจ้งและเปิดโอกาสให้บุคคลดังกล่าวชี้แจงเพิ่มเติมหลายครั้งแล้ว แต่บุคคลดังกล่าวกลับปฏิเสธไม่ดำเนินการใด ๆ และยืนยันให้บริษัท ฯ ชำระเงินให้แก่ตนตามอำเภอใจ อันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต บริษัทฯ จึงไม่สามารถชำระเงินให้แก่บุคคลดังกล่าวได้จนกว่าจะได้มีการพิสูจน์ความถูกต้องของรายงานสรุปค่าใช้จ่ายได้

บริษัทฯ ขอชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะประกอบธุรกิจด้วยความชื่อสัตย์และสุจริตมาโดยตลอด แต่การที่บุคคลดังกล่าวได้มีการแถลงข้อเท็จจริงที่เป็นความเท็จต่อสาธารณะ โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯ มีพฤติการณ์หลอกลวง จึงเป็นการกระทำที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ในการนี้บริษัทฯ จึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายอย่างถึงที่สุดจากบุคคลดังกล่าวต่อไป

Back to top button