“ประเสริฐ” ชู “ดิจิทัลเปลี่ยนประเทศ” ลุย 7 flagships ปรับโฉมเศรษฐกิจ-สังคมปี 67

ผู้ส่อข่าวรายงนว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงแนวทางและเป้าหมายการทำงานของกระทรวงดีอีในปี 67 ว่า ในปีนี้กระทรวงดีอีมี Flagships ในการดำเนินงาน 7 ด้านหลักประกอบด้วย 1. Cloud First Policy , 2. AI Agenda , 3. 1 อำเภอ 1 IT Man , 4. พัฒนากำลังคนดิจิทัล (Digital Manpower) , 5. Cell Broadcast , 6. แก้ปัญหาภัยออนไลน์ , 7. ยกระดับ Thailand Digital Competitiveness Ranking

โดยด้านที่ 1 Cloud First Policy ดีอี ผลักดันการใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก มุ่งสู่การเป็น Cloud Hub ของภูมิภาคมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประเทศ ที่ทันสมัย มั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ยกระดับการทำงานภาครัฐ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ 1.1 ให้บริการระบบคลาวด์เพื่อพัฒนาการบริการประชาชน ไม่น้อยกว่า 220 กรม 75,000 VM , 1.2 ประหยัดงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลของประเทศ 30 – 50% , 1.3 ส่งเสริมการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูล และการใช้ประโยชน์ Big Data และ 1.4 สนับสนุนท้องถิ่นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการทำงาน

นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนด้านคลาวด์ของประเทศ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ด้านที่ 2 AI Agenda พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยด้าน National AI Service Platform แพลตฟอร์มรวมบริการด้าน AI บน GDCC , พัฒนา Thai Large Language Model (Thai LLM) เป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย’ , เตรียมพร้อมด้านจริยธรรม/กฎหมาย/สังคม (AI Ethics, Governance, Regulation) พัฒนาทักษะ AI , Hackathon เสริมสร้างความรู้/ทักษะ AI สำหรับ SME และ ประชาชน , การ Upskill/Reskill/Newskill ด้าน AI สำหรับบุคลากรทุกภาคส่วน และเร่ง AI use case รัฐและเอกชน เช่น AI use case การพยากรณ์อากาศระยะปัจจุบันอัจฉริยะ ข้อมูลพยากรณ์กลุ่มฝนเชิงพื้นที่ระดับอำเภอ (ระยะ 3 ชั่วโมงข้างหน้า) บริเวณ 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ และแผนที่เสี่ยงภัยสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก

ด้านที่ 3 เดินหน้า 1 อำเภอ 1 IT Man เร่งขับเคลื่อนดิจิทัลระดับภูมิภาค นำโดย IT Man 878 อำเภอ , ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 2,222 ศูนย์ ,  อินเทอร์เน็ตสาธารณะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 24,654 หมู่บ้าน , สภาเยาวชนดิจิทัล และชุมชนโดรนใจ 500+ ชุมชน โดยจะเป็นการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ สนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิทัลในจังหวัด ดำเนินงานครอบคลุมระดับพื้นที่อำเภอ

ด้านที่ 4 Digital Manpower จะมีการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนากำลังคนดิจิทัล แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลผู้กำลังคนดิจิทัล ผ่าน Digital ID (Credit bank) , ดึงดูดกำลังคนดิจิทัล Global Digital Talent Visa (GDT Visa) , ร่วมเอกชน เพิ่มกำลังคนดิจิทัล 50,000 คน และอาสาสมัครดิจิทัลกับสภาเยาวชนดิจิทัล ขยายผลให้ความรู้ดิจิทัลประชาชน

ด้านที่ 5 Cell Broadcast โดยมีระบบแจ้งเตือนภัยแบบเจาะจง ทันสมัย สำหรับคนไทยทั้งประเทศ ข้อความแจ้งเตือนภัยทุกประเภท ส่งแบบเจาะจง ในบริเวณพื้นที่ ที่กำหนด ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำหรับด้านที่ 6 แก้ปัญหาภัยออนไลน์ อาทิ ยกระดับศูนย์ AOC 1441 ใช้ AI ช่วยตรวจจับ วิเคราะห์ ประมวลผล ขยายผลกวาดล้าง บัญชีม้าและบัญชีของม้า , Call alert แอปพลิเคชันแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์เสี่ยง ภัยออนไลน์ , ศูนย์ PDPC Eagle Eye ตรวจ ป้องปราม ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล และซื้อขายข้อมูลและการเปิดก่อนจ่าย แก้ปัญหาซื้อของออนไลน์ เก็บเงินปลายทาง (COD) ได้ของไม่ตรงปกและไซเบอร์วัคซีน รู้เท่าทันภัยออนไลน์

ขณะด้านที่ 7 มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ยกระดับ Thailand Digital Competitiveness สู่ 30 ในปี 2569 จากอันดับ 40 ในปี 65 ปี 67 ดีขึ้น 2 อันดับ อันดับที่ 33 ในปี 67 จากอันดับที่ 35 ในปี 66 ตามการจัดอันดับของ IMD