ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ธุรกรรม NVDR “บจ.” ป้องกันนลท.ไทยปกปิดถือครองหุ้น!

ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์ธุรกรรม NVDR ของบริษัทหลักทรัพย์ หวังป้องกันนักลงทุนไทยทุจริตเลี่ยงการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในตลาดทุน และปกปิดข้อมูลการถือหุ้น เพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทย เริ่ม 1 เม.ย.67


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการธุรกรรมเกี่ยวกับ NVDR ของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักทรัพย์ประเภทใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย หรือ Non-Voting Depositary Receipt (NVDR) ในการสนับสนุนการลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทย และป้องกันไม่ให้ผู้ลงทุนไทยใช้หลักทรัพย์ NVDR เป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

โดย ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้บริการธุรกรรมเกี่ยวกับ NVDR ของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการมีหลักทรัพย์ NVDR ในการสนับสนุนการลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทยโดยไม่ติดข้อจำกัดการถือครองหลักทรัพย์ของคนต่างด้าว (Foreign Limit)

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำหลักทรัพย์ NVDR ไปใช้เป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ หลักเกณฑ์การรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือเป็นช่องทางปกปิดข้อมูลการถือหุ้น เป็นต้น ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในตลาดทุน หรือทำให้ผู้ลงทุนขาดข้อมูลที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุน โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.ห้ามบริษัทหลักทรัพย์ รับคำสั่งซื้อ รับโอน หรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ ที่มีผลทำให้ผู้ลงทุนไทย

มีหลักทรัพย์ NVDR เพิ่มขึ้น เว้นแต่กรณีการได้มาตามสิทธิที่เกิดจากการถือครองหลักทรัพย์ NVDR ก่อนประกาศมีผลใช้บังคับ หรือเป็นกรณีการโอนตามกฎหมาย

2.กรณีที่ลูกค้าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผู้ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ (custodian) ในต่างประเทศ หรือผู้ดำเนินการเพื่อบุคคลอื่น ให้บริษัทหลักทรัพย์แจ้งลูกค้าถึงข้อจำกัดการให้บริการตาม (1) และให้ลูกค้าดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้รับประโยชน์ทุกรายทุกทอดที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ NVDR ที่มีสัญชาติไทย โดยให้บริษัทหลักทรัพย์รายงานต่อ ก.ล.ต. ทุกสิ้นเดือนและเมื่อมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเผยแพร่ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

Back to top button