เปิด 12 หุ้น ลุ้นเข้า SET50-SET100 รอบใหม่ครึ่งปีหลัง

ตลท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์คัดเลือกหุ้น SET50-SET100 รอบครึ่งปีหลัง โบรกมองบวก 12 หุ้นผ่านเข้ารอบ ได้แก่ BJC-TIDLOR-BCP-ITC-JTS-BA-MBK-CKP-QH-EPG-SKY


บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้น SET50 และ SET100 Index โดยมีผลใช้ครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 11-26 เมษายน 2567 ในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้น SET50 และ SET100 Index เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพตลาดและสอดคล้องกับต่างประเทศ โดยจะเริ่มมีผลใช้ในรอบคัดเลือกเดือนมิถุนายน 2567

1. ปรับเกณฑ์สภาพคล่องในการคัดเลือกหลักทรัพย์ของดัชนี SET50 และ SET100

เกณฑ์ปัจจุบัน เริ่มกำหนดจากค่าตั้งต้น และปรับลดจนได้จำนวนหุ้นครบตามที่กำหนด โดยเริ่มจาก Trading Value 50% และลดได้ครั้งละ 5% แต่ต้องไม่น้อยกว่า 20%

Turnover Ratio 2% และลดได้ครั้งละ 0.5% แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1% โดยใช้ปัจจัยในการพิจารณาสภาพคล่องตามเดิม หากแต่ปรับปรุง

ส่วนข้อเสนอ (เกณฑ์ใหม่) เป็นวิธีการพิจารณาในลักษณะเดียวกับต่างประเทศ โดยการกำหนดเป็นค่า Minimum Requirement ของหลักทรัพย์ที่จะผ่านการคัดเลือกแทน คือ Trading Value ไม่น้อยกว่า 25%  และ Turnover Ratio ไม่น้อยกว่า 1%

อีกทั้งกรณีได้จำนวนหลักทรัพย์ไม่ครบตามที่ดัชนีกำหนด สามารถปรับลดจำนวนเดือนที่ผ่านเกณฑ์สภาพคล่องได้ตามแนวทางที่กำหนด

2.ยกเลิกการกำหนดจำนวนและประกาศรายชื่อหลักทรัพย์สำรองล่วงหน้าในรอบทบทวน และจะประกาศเมื่อมีเหตุการณ์ที่่ต้องนำหลักทรัพย์มาแทนที่ในดัชนีให้ครบตามหลักการในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ตามหลักเกณฑ์ปกติของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทบทวนหุ้นเข้า-ออก SET50 / SET100 Index ทุกครึ่งปี  สำหรับการคัดเลือกหุ้นในครึ่งปีแรกจะใช้ข้อมูล 12 เดือนย้อนหลังจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้า และสำหรับครึ่งปีหลังจะใช้ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมปีปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี เพื่อให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้ล่วงหน้า โดยทางฝ่ายนักวิเคราะห์จึงคาดการณ์รายชื่อหุ้นเข้า-ออก SET50 / SET100 Index เบื้องต้นตามเกณฑ์ใหม่ (ระดับความเชื่อมั่นประมาณ 60%) ที่จะใช้สำหรับการคำนวณในช่วงครึ่งปีหลัง 2567

ส่วนหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะเข้า SET50 Index มี 4 ตัว คือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)  หรือ BJC, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)  หรือ TIDLOR, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ BCP และบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการเข้า SET50 Index มากถึงน้อย) ซึ่งจะเข้ามาแทนหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่คาดว่าจะตกชั้นไปอยู่ใน SET100 Index (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากน้อยไปหามาก เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการออกจาก SET50 Index มากถึงน้อย)

นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะเข้า SET100 Index มี 8 ตัว คือ BJC, บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ JTS, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK, บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP, บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH, บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG และบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการเข้า SET100 Index มากถึงน้อย) ซึ่งจะแทนหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN, บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH, บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL, SNNP, ORI, VGI, AURA และ THG ที่ถูกปรับออกไป (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากน้อยไปหามาก เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการออกจาก SET100 Index มากถึงน้อย)

อนึ่ง การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นการคาดการณ์เบื้องต้นซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะทยอยอัพเดทให้เรื่อย ๆ และจะมีการออกคาดการณ์ครั้งสุดท้ายในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้อีกครั้งก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้น SET50 / SET100 Index ชุดใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2567 จากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในอดีตนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2552 เป็นต้นมา โดยหุ้นที่เข้า SET50 Index มักมีราคาหุ้นปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าตลาด (Outperform) ในช่วง 1-2 เดือนล่วงหน้าก่อนมีผลบังคับใช้จริง ด้วยผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยประมาณ 6-7% และมีโอกาสทำกำไรสูงประมาณ 70%

Back to top button