เปิดโผ 14 บจ. mai กำไร Q1 โตเกิน 1 เท่าตัว

ขนทัพ 14 หุ้นกลุ่ม mai โชว์กำไรไตรมาส 1/67 เติบโตเกิน 100% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน นำทีมเด่น PDG-PACO-CHIC-AMARC-NAT ลุ้นทั้งปี 67 ผลงานแกร่งตามเป้า


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลผลประกอบการบริษัทหลักทรัพย์ในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 เติบโตเกิน 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพบว่ามีจำนวน 14 บริษัท ได้แก่ PDG, PACO, CHIC, AMARC, NAT, ATP30, ADD, XO, PIMO, STP, ARROW, JPARK, READY,BIS โดยจะขอนำเสนอข้อมูลประกอบการลงทุนดังนี้

บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/ 67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 16.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,756.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.87 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากไตรมาส 1/67 ต้นทุนขายลดลง 29.806 ล้นบาท คิดเป็นร้อยละ 20.48 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลง โดยเฉพาะค่าพลังงานไฟฟ้า เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/ 67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 46.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,265.03 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3.41 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากไตรมาส 1/67 รายได้จากการขายมีจำนวน 259.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดก่อน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.71 เนื่องจากบริษัท”มียอดสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับยอดขายในระเทศก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยจากการขายสินค้าชนิดใหม่ให้กับลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนไตรมาส 1/67จำนวน 18.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5 ล้านบาทเมื่อเทียบกับงวดก่อน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงปี 67 นั้นอ่อนค่าลง

บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 679.149% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.37 ล้านบาท เนื่องจากรายได้งานโครงการที่มีกำไรดีส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 150.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่  149.84 ล้านบาท นอกจากนี้ต้นทุนขายและต้นทุนบริการรวมไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 50.06 ล้านบาท ลดลง 9.77 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 526.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.14 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้จากการบริการจำนวน 75.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีการเติบโตในทุกกลุ่มบริการและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากลูกค้าเริ่มฟื้นตัวจากสสถานการณ์ COVID-19 และความสามารถในการรับงานโครงการเอกชนที่เพิ่มขึ้น อาทิ รายได้จากบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing),รายได้จากบริการสอบเทียบ (Calibration) และรายได้จากบริการตรวจสอบและรับรองระบบ (Inspection & Certification)

บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ  54.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.71 ล้านบาท

ด้านนายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้รวม 731.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 344.50 ล้านบาท จำนวน 386.58 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 112.21% กำไรสุทธิ 54.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.71  ล้านบาท จำนวน 39.90 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 271.24%

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/67 เติบโตทั้งรายได้และกำไร จากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในโครงการต่าง ๆ  จำนวน 39 งาน โดยแบ่งเป็น ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และ รับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 26 งาน และ ธุรกิจให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 13 งาน

สำหรับทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/67 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทมีโครงการในมือจำนวน 39 โครงการ มูลค่า Backlog ทั้งสิ้น 479.54 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567) อาทิ งานจ้างเหมาขยายโครงข่ายอุปกรณ์สื่อสัญญาณขนาดใหญ่ระดับ Backbone Network รองรับการให้บริการ ISP-POP และ บริการ IIG มูลค่ารวม 89.45 ล้านบาท, งานให้บริการอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มูลค่า 80.36 ล้านบาท โดยบริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 67 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 30% และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดียิ่งขึ้น

ส่วนบริษัทที่เหลือดูจากตารางประกอบ ดังนี้

Back to top button