
สแกน 4 หุ้นไอพีโอปี 68 เหลือรอด PIS ยังเหนือจอง!
ส่องความเคลื่อนไหวราคาหุ้น “ไอพีโอ” ที่เข้าเทรดตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พบมีแค่ PIS ที่ยังมีราคาหุ้นเหนือจอง ส่วน MOTHER-LTMH และ BKA ราคาร่วงต่ำจอง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นไอพีโอ ที่เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มาเพื่อนำเสนอแก่นักลงทุนให้เห็นถึงพัฒนาการด้านราคาหุ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้าลงทุน
ทั้งนี้ ในปี 68 ปีหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใหม่จำนวน 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS, บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER, บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ PIS และ บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA
สำหรับ PIS เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 ด้วยราคาเสนอขายไอพีโอ 3 บาท ระดับ P/E ที่ 15.66 เท่า โดยข้อมูล ณ วันแรกที่เข้าซื้อขายพบว่าราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.46 บาท บวก 20%
ขณะที่ MOTHER เข้าจะทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 ด้วยราคาเสนอขายไอพีโอ 1.40 บาท ระดับ P/E ที่ 17.60 เท่า โดยข้อมูล ณ วันแรกที่เข้าซื้อขายพบว่าราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.61 บาท บวก 15%
ด้าน LTMH เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 ด้วยราคาเสนอขายไอพีโอ 5 บาท ระดับ P/E ที่ 28.24 เท่า โดยข้อมูล ณ วันแรกที่เข้าซื้อขายพบว่าราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.05 บาท บวก 1%
ส่วน BKA เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 22 เม.ย.68 ด้วยราคาเสนอขายไอพีโอ 1.80 บาท ระดับ P/E ที่ 10.27 เท่า โดยข้อมูล ณ วันแรกที่เข้าซื้อขายพบว่าราคาหุ้นปิดที่ระดับ 2.46 บาท บวก 36.67%
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุด ณ ปิดตลาดวันที่ 9 พ.ค.68 พบว่ามีเพียงแค่ PIS ที่สามารถยืนได้เหนือราคาเสนอขายไอพีโอ
โดย PIS ปิดตลาดล่าสุดที่ระดับ 4.34 บาท ลบ 0.02 บาท หรือ 0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.44 ล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวขึ้น 1.34 บาท หรือ 44.67% จากราคาเสนอขายไอพีโอ
ขณะที่ MOTHER ปิดตลาดล่าสุดที่ระดับ 0.67 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.10 ล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวลดลง 0.73 บาท หรือ 52.14% จากราคาเสนอขายไอพีโอ
ส่วน LTMH ปิดตลาดล่าสุดที่ระดับ 4.80 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.98 ล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวลดลง 0.20 บาท หรือ 4% จากราคาเสนอขายไอพีโอ
ด้าน BKA ปิดตลาดล่าสุดที่ระดับ 1.32 บาท ลบ 0.08 บาท หรือ 5.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.23 ล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวลดลง 0.48 บาท หรือ 26.67% จากราคาเสนอขายไอพีโอ
พร้อมกันนี้ พบว่ามีหลักทรัพย์อีกหลายแห่งที่เตรียมเข้าจดทะเบียนและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แบ่งเป็น SET จำนวน 4 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO ผู้ให้บริการสินเชื่อภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ ยังให้บริการสินเชื่อโฉนดที่ดิน ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และประกันชีวิต และธุรกิจจำหน่ายสินค้าเงินสดและเงินผ่อน ภายใต้ชื่อทางการค้า “เงินเทอร์โบ”
โดย TURBO เตรียมเสนอขายไอพีโอจำนวนรวมไม่เกิน 537,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย 1. หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 447,780,000 หุ้น 2. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด จำนวนไม่เกิน 89,220,000 หุ้น และมี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
2.บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์
โดย MRDIYT เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 981,482,654 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 16.31 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ และมี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
3.บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้กับผู้ใช้ก๊าซภาคครัวเรือน ภาคขนส่งและ ภาคอุตสาหกรรม ประกอบธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้กับผู้ใช้ก๊าซภาคครัวเรือน ภาคขนส่งและ ภาคอุตสาหกรรม
โดย ATLAS เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 418,420,000 หุ้น คิดเป็น 29.50% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วหลัง IPO และมี บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
4.บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC ผู้นำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ 1) ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล 2) ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย 3) ผลิตภัณฑ์และนวัตถกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังานและสิ่งแวดล้อมด้วยการให้คำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่นและให้บริการด้านวิศวกรรม
โดยเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 79,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ และมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
พร้อมกันนี้มี 7 บริษัทจดทะเบียนที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาด mai ได้แก่
1.บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BLUE ผู้ให้บริการ System Integration ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) แบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ วางระบบ จัดหา และติดตั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงการติดตามดูแลรักษาและการฝึกอบรมให้แก่ผู้ใช้งาน และการให้บริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
โดย BLUE เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 60,000,000 หุ้น และมี บริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
2.บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้คิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัท คือ SKINSISTA และ Dermie
โดย SKIN เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 44,000,000 หุ้น และมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
3.บริษัท สมาร์ททีทีซี จำกัด (มหาชน) หรือ STTC ผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจำหน่ายพร้อมติดตั้ง การบริการด้านข้อมูลการใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
โดย STTC เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 100,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วหลัง IPO และมี บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
4.บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKILL ผู้ประกอบธุรกิจ 2 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบครบวงจร ซึ่งประกอบไปด้วย (1.1) แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไป (1.2) แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับองค์กร และ (1.3) แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับปริญญาออนไลน์2) ธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา
โดย SKILL เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 15,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วหลัง IPO และมี บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
5.บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลภายใต้โรงพยาบาลเอกชน จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ และโรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร
โดย HANN เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 160,000,000 หุ้น และมี บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
6.บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM ประกอบธุรกิจตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภทให้กับเจ้าของโครงการ รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ รวมไปถึงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย โดยนำอสังหาริมทรัพย์สภาพดีมาปรับปรุงเพิ่มเติมและจำหน่ายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ
โดย MMM เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 64,200,000 หุ้น และมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
7.บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์บริษัทหรือแบรนด์ร่วม และรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก
โดย NUT เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 37,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 30.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO และมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน