CLSA เตือนการเมืองไทยเข้าสู่ “ภาวะตีบตัน” เสี่ยงกระทบตลาดหุ้น-นโยบายเศรษฐกิจ

บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CLSA ระบุว่า  ล่าสุดประเมินสถานการณ์การลงทุนในประเทศไทยว่า ความเสี่ยงทางการเมืองกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางความขัดแย้งภายในรัฐบาลผสมระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนทางการเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2568 โดยมีเหตุการณ์สำคัญหลายประการที่ต้องจับตา ได้แก่ การอภิปรายร่างงบประมาณประจำปี 2569 การพิจารณาคดีประกันตัวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และข้อกล่าวหาทุจริตในการเลือกตั้งวุฒิสภา ทั้งหมดนี้อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลผสมและกระทบต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย

อภิปรายร่างงบประมาณปี 2569
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2569 วงเงิน 3.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากปีก่อน โดยสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มอภิปรายวาระแรกในวันที่ 28–30 พฤษภาคมนี้ หากร่างดังกล่าวไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภา อาจนำไปสู่การลาออกของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือการยุบสภา ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยซึ่งมีความขัดแย้งรุนแรงกับพรรคเพื่อไทย อาจใช้โอกาสนี้ในการคว่ำร่างงบประมาณ

คดีทักษิณ
ศาลฎีกามีกำหนดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน เพื่อพิจารณาการบังคับใช้ทัณฑ์บนและเหตุผลการพักรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมทั้งได้ปฏิเสธคำขอเดินทางไปต่างประเทศของเจ้าตัว ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่เด็ดขาดของศาลในคดีนี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายรัฐบาล อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และเสถียรภาพของรัฐบาลผสมในปัจจุบัน

ข้อกล่าวหาทุจริตเลือกตั้งวุฒิสภา
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังสอบสวนกรณีทุจริตเลือกตั้งวุฒิสมาชิก โดยมีการเรียกวุฒิสมาชิก 155 คนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยเข้าชี้แจงภายในกรอบเวลาจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม หากพบความผิด คดีจะถูกส่งต่อให้ DSI ฟ้องร้องต่อในชั้นศาล และอาจนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยในกรณีที่พบบริหารพรรคเกี่ยวข้องโดยตรง

ขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิกบางส่วนได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมใช้อำนาจเกินขอบเขตในการให้ DSI ดำเนินการสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งศาลได้สั่งให้รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยยังมีคำร้องที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ปลด กกต. ออกจากกระบวนการสอบสวนอีกด้วย ทั้งสองพรรคการเมืองหลักกำลังใช้ “กฎหมายเป็นเครื่องมือ” ในการตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ หากความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป อาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลผสม

ร่างกฎหมายคาสิโน (Casino Bill)
รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายศูนย์บันเทิงออกไปจนถึงการประชุมสภาครั้งถัดไปในวันที่ 2 กรกฎาคม เนื่องจากเผชิญแรงต้านจากวุฒิสมาชิก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีก่อนที่ร่างดังกล่าวจะเข้าสู่วาระการพิจารณา

เศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย:
CLSA มองว่าการเมืองไทยกำลังเข้าสู่ภาวะตีบตัน ส่งผลให้โอกาสในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของพรรคเพื่อไทยเริ่มจำกัดมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลได้ตัดสินใจโยกงบประมาณโครงการ Digital Wallet เฟส 3 ซึ่งเดิมตั้งเป้าแจกเงินแก่ประชาชน 2.7 ล้านคน ไปสู่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแทน แม้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ก็สะท้อนข้อจำกัดด้านนโยบายในระยะสั้น

ขณะเดียวกัน CLSA คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/2568 จะอ่อนตัวลงทั้งแบบจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดทุนยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง