โบรกชี้เป้า 7 หุ้นเด่น รับอานิสงส์โครงการ “GDCC Open Data” หนุนดีมานด์คลาวด์รัฐพุ่ง

 บล.กรุงศรี-ดาโอ ชี้เป้า 7 หุ้นเด่น รับอานิสงส์รัฐทุ่มงบกว่า 3,000 ล้านบาท ผุดโครงการ “GDCC Open Data” ตอบโจทย์นโยบาย Cloud First ดันดีมานด์คลาวด์ภาครัฐทะลุ 2 แสน VMs โบรกชูกลุ่ม Infra-Tech และ Digital Services เด่น นำโดย BBIK, GULF, GPSC, INSET, STEC, SIS, SAMART, ADVANC และ TRUE


ภาครัฐเดินหน้ายุทธศาสตร์ “Cloud First Policy” อย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดตัวโครงการ “GDCC Open Data” หรือคลาวด์กลางภาครัฐยุคใหม่ ภายในงาน GOV Cloud 2025 เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ให้ทันสมัยและตอบสนองการบริหารงานภาครัฐยุคดิจิทัล โดยตั้งเป้ารองรับความต้องการใช้งานของหน่วยงานรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยปัจจุบัน GDCC รองรับการใช้งานได้ประมาณ 40,000 Virtual Machines (VMs) แต่จากการสำรวจความต้องการของหน่วยงานภาครัฐในปี 2568 (25F) พบว่ามีคำขอใช้แล้วกว่า 82,000 VMs และคาดว่าในระยะอันใกล้ รัฐจะต้องสามารถรองรับได้ถึง 200,000 VMs โดยเฉพาะเมื่อระบบขนาดใหญ่ เช่น ระบบ ERP และ e-Document ของภาครัฐทยอยเข้าสู่ระบบคลาวด์มากขึ้น

สำหรับโครงการ GDCC ครั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรวมกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณจากกระทรวงดีอีเอส 1,000 ล้านบาท และจากสำนักงาน กสทช. อีก 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศของภาครัฐ โดยเน้นการเปิดรับความร่วมมือจากผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

บล.กรุงศรี ระบุว่า โครงการ GDCC จะเป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันให้ความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อต่อกลุ่มหุ้นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี (Infra Tech) ซึ่งจะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากความต้องการด้าน Data Center, พลังงาน และบริการจัดการข้อมูลบนระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยหุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ให้บริการวางระบบและนำข้อมูลขึ้น Cloud ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation สำหรับภาครัฐ

ตามมาด้วยบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งมีบทบาทด้านพลังงานสนับสนุนการขยายศูนย์ข้อมูล

บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STECON และ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET ที่อยู่ในกลุ่มรับเหมาสร้างและติดตั้ง Data Center โดยตรง

ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มการลงทุนของภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในระยะกลางถึงยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุอีกว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดตัว “GDCC Open Data” คลาวด์ภาครัฐยุคใหม่ หรือ คลาวด์กลางรูปแบบใหม่ โดยความร่วมมือจากผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) , Alibaba, AWS, CloudHM, Huawei, INET, NIPA, Microsoft และ Oracle Data โดยรัฐบาลสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและบริการสาธารณะต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเปลี่ยนผ่านการบริหารงานภาครัฐเป็นระบบงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven)

โดยประเด็นนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่ม ICT และ IT SI เช่น GULF,บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE, บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SIS, BBIK, บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ SAMART

ทั้งนี้การเปิดตัวโครงการ “GDCC Open Data” ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับภาครัฐสู่ระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้นโยบาย Cloud First ที่ชัดเจนและมีทิศทาง ส่งผลให้ดีมานด์ด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพิ่มขึ้นในทุกมิติ ตั้งแต่ Data Center, พลังงาน ไปจนถึงบริการคลาวด์และระบบความปลอดภัยไซเบอร์

ทั้งนี้หุ้นเด่นที่มีโอกาสได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการขยายตัวของโครงการ ได้แก่กลุ่ม Infra Tech และ Digital Tech เช่น BBIK, GULF, GPSC, INSET, STEC, SIS, SAMART, ADVANC และ TRUE นักลงทุนควรติดตามพัฒนาการของโครงการอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากจะเป็นเมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยีของภาครัฐแล้ว ยังอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงสร้างการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีไทยในระยะยาว

Back to top button