
AOT รับ “คิงเพาเวอร์” หารือเลิกสัญญา “ดิวตี้ฟรี” อ้างพิษโควิด-เศรษฐกิจโลก
AOT เผยได้รับหนังสือจาก “คิงเพาเวอร์” ขอหารือยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน เหตุได้รับผลกระทบจากโควิด เศรษฐกิจโลก–จำนวนนักท่องเที่ยวลดฉุดยอดขาย แต่ยังดำเนินกิจการตามปกติ พร้อมเร่งหาวิธีแก้ไขเพื่อให้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้ส่งหนังสือถึงบริษัท เพื่อขอหารือแนวทางการยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานหลัก 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
ทั้งนี้ KPD ระบุว่า ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ อาทิ การหยุดดำเนินการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าจากนโยบายรัฐ การลดภาษีสินค้าไวน์ที่กระทบต่อยอดขายในร้านดิวตี้ฟรี การคืนพื้นที่บางส่วนของ ทอท. รวมถึงการขาดมาตรการเชิงรุกของภาครัฐในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน
นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะสงครามระหว่างประเทศ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามสัญญา และต้องเผชิญภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่เกิดจากการกระทำหรือความผิดของบริษัท
โดยบริษัทได้รับหนังสือดังกล่าวจาก KPD แล้ว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อขอหารือแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไป หรือหาแนวทางยุติปัญหาด้วยความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย ตามกรอบเงื่อนไขของสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ โดยปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างพิจารณาหารือร่วมกับ KPD รวมถึงดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อทำการศึกษา วิเคราะห์ และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการบริหารจัดการกิจการดิวตี้ฟรีให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ทอท. ขณะเดียวกัน ยังต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเดิมด้วย
ทั้งนี้ ทอท.ขอยืนยันว่า KPD ยังคงประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานของ ทอท.ตามปกติ และจะมีการพิจารณาทางเลือกต่อไปอย่างรอบคอบภายใต้กรอบสัญญาและประโยชน์ร่วมกัน