
“ธปท.” เคาะ 3 กลุ่มทุนใหญ่ ลุยแบงก์ไร้สาขา TRUE-KTB-AIS-OR-SCBX ผงาดนำทัพ เปิดปีหน้า
“ธปท.” เคาะ 3 กลุ่มทุนใหญ่ ลุยแบงก์ไร้สาขา TRUE-KTB-AIS-SCBX-OR ผงาดนำทัพ ย้ำผู้ผ่านเกณฑ์เร่งจัดตั้งบมจ.-พร้อมทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท และโชว์ความพร้อมระบบคน-ไอที เพื่อเตรียมพร้อมเปิดบริการภายใน ปี 2569 หวังยกระดับบริการการเงินสู่กลุ่มรายย่อย-SMEs อย่างทั่วถึงและยั่งยืน
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาศ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการพิจารณาคำขออนุญาตประกอบธุรกิจ (Virtual Bank : VB) กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยคำแนะนำของ ธปท.ได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ลงวันที่ 20 ก.พ.2567 เพื่อเปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะขออนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ยื่นคำขออนุญาตต่อ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-19 ก.ย.2567
ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ยื่นคำขออนุญาตจำนวนทั้งสิ้น 5 รายบัดนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ธปท. ได้พิจารณาคำขออนุญาต เอกสารหลักฐาน และข้อมูลประกอบการขออนุญาตของผู้ขออนุญาต ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลังฯ เสร็จสิ้นแล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ ธปท. ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank
ธปท.จึงขอประกาศว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยคำแนะนำของ ธปท. ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ประกอบกับข้อ 9 ของประกาศกระทรวงการคลังฯ ให้ความเห็นชอบผู้ที่เห็นสมควรให้จัดตั้ง Virtual Bank โดยรายชื่อ 3 กลุ่มผู้ได้รับความเห็นชอบได้แก่
รายที่ 1 บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด(กลุ่มทรู) โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มการให้บริการในระบบสินเชื่อสำหรับ SMEs รายเล็ก เช่น สินเชื่อที่เลือกยอดจ่ายชำระคืนตามรายรับจริง,สินเชื่อ Retails เพื่อประกอบอาชีพ เช่น สินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยที่เหมาะกับระดับความเสี่ยง และสามารถเลือกงวดจ่ายชำระที่เหมาะกะงวดรายรับ นอกจากนี้เงินฝากที่ช่วยสร้างวินัยการออมเช่น เริ่มต้นตัวขมันจำนวนน้อย เลือกงวดการออบที่เหมาะกับงวดรายรับและได้รับรางวัลที่จูงใจ เมื่อออมเงินต่อเนื่อง
รายที่ 2 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ครอบคลุมฐานลูกค้าหลากหลาย โดยเฉพาะSMEs รายเล็ก และกลุ่มรายได้น้อย/ไม่ประจำตัวอย่างกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบอาชีพอิสระร้านค้าขนาดเล็กผู้ผลิต/เกษตรกร
รายที่ 3 บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, WeTeohnology Limited KakaoBank Corp. โดยทุกรายพร้อมและมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผู้เล่นปัจจุบันปรับตัว มี ecosystem ที่ครอบคลุมใช้เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือผู้ถือหุ้นมีความเชี่ยวชาญและพร้อมสนับสนุน
ด้านนางสาววิภาวิน พรหมบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาคำขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ตามประกาศกระทรวงการคลังฯ การพิจารณคำนึงถึงประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยโดยรวม และเสถียรภาพระบบการบินเป็นสำคัญ โดยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขออนุญาตต้องมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากร โดยมีฐานลูกค้าเดิม,เคยมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า,เคยให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล และเคยใช้ข้อมูลที่หลากหลายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการ และบุคคลที่จะถือหุ้นเกิน 10% ต้องมีธรรมาภิบาลที่ดี ไม่มีลักษณะต้องห้ามมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีฐานะทางการเงินมั่นคง
ขณะที่สิ่งที่ไม่อยากเห็น (Red Line) คือแผนธุรกิจก่อให้เกิดความเสียงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน หรือความเสียหายต่อผู้ฝากเงิน/ผู้ใช้บริการในวงกว้างประกอบธุรกิจแบบไม่ยั่งยืน เช่น เร่งขยายธุรกิจที่เสียงกระทบฐานะ และกระตุ้นการแข่งขันอย่างไม่เหมาะสม เช่น เน้นปล่อยกู้กลุ่มที่เข้าถึงอยู่แล้ว ยิ่งกระตุ้นการก่อหนี้เกินตัว และเอื้อประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องหรือไร้อำนาจตลาดอย่างไม่หมาะสม เช่น กำหนดเงื่อนไขว่าจะให้สินเชื่อบริการเฉพาะของบริษัทในเครือเท่านั้น
ส่วนสิ่งที่อยากเห็น(Green Line) คือ นำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ทางดิจิทัล ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเน้นส่งเสริมการประกอบอาชีพและวินัยทางการการเงินแก่รายย่อยและ SMEs โดยเฉพาะกลุ่ม unserved/underserved และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ลูกค้า เป็นนวัตกรรมและบริการที่ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการแข่งขัน และมีศักยภาพและความสามารถที่จะประกอบธุรกิจตามแผน(Capability) 7 ด้าน อาทิ Business Model, Digital Expertise & IT, Data, Corporate Governance, Risk Management และ Financial Strength
นอกจากนี้ธปท. ยังคำนึงถึงจำนวนที่เหมาะสมของธนาคารพาณิชย์รายใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นการแข่งขันในระบบสถาบันการเงินอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝากเงิน ผู้ใช้บริการและระบบเศรษฐกิจการเงินไทยโดยรวม โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถีรภาพของระบบการเงินของประเทศ
โดยขั้นตอนหลังจากนี้เข้าพบหารือกับ ธปท.ในช่วง ก.ค.นี้ ผู้ผ่านคำขอใบอนุญาตจะต้องจัดตั้งบริษัทมหาชน โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และรับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้น ต้องมีแผนธุรกิจด้าน people/process/system และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทางการเงิน
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจะต้องยื่นขอรับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์จากกระทรวงการคลัง และเริ่มดำเนินธุรกิจภายในระยะเวลา 1 ปีหลังจากได้รับความเห็นชอบ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ธปท.จะเข้าไปติดตามประเมินความพร้อมในทุกมิติอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุจำเป็นและสมควร ธปท.สามารถพิจารณาผ่อนผันระยะเวลาการเปิดดำเนินการออกไปได้อีกไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้มั่นใจว่า Virtual Bank ที่จะเริ่มดำเนินงานสามารถให้บริการได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายตามพันธกิจที่วางไว้
โดยหลักๆคือ การจัดตั้งบริษัทมหาชน,และการเตรียมเงินทุนจดทะเบียนและชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ณ วันเปิดดำเนินการ และการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ระบบงาน กระบวนการบริหารความเสี่ยง และระบบไอทีตามแผนธุรกิจที่ยื่นเสนอมา และทั้งหมดต้องผ่านการประเมินความพร้อมโดย ธปท. ก่อนที่จะยื่นขอรับใบอนุญาตและเปิดดำเนินการได้
ส่วนกรณีผู้ผ่านคำขอใบอนุญาตจะเพิ่มพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจสามารถทำได้ แต่ต้องไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น หากจะต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นจะต้องเข้าพบหารือ ธปท.ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หรือกระทบนัยสำคัญอะไรต่อการดำเนินธุรกิจหรือไม่ โดยต้นเดือน ก.ค.นี้ ธปท.จะเชิญผู้ผ่านพิจารณาคำขอทั้ง 3 รายเข้าพบ เพื่อดำเนินการบริหารจัดการงานระบบหลังบ้านของธนาคารไร้สาขาต่อไป
ส่วนการเปิดรับเปิดรับคำขอใบอนุญาต Virtual Bank ในเฟสที่ 2 ธปท. มีโอกาสที่จะเปิดแต่จะให้ความสำคัญกับการประเมินผลการดำเนินงานของ 3 รายแรกที่ได้รับอนุญาตให้มีความแข็งแรงและตอบโจทย์ประชาชนได้ก่อน ส่วนมาตรฐานการดูแลลูกค้าในกลุ่ม Virtual Bank ธปท.ใช้มาตรฐานเดียวกับการการกำกับดูแลเช่นเดียวกันแบงพาณิชย์
นอกจากนี้กระบวนการที่ ธปท. จะใช้ในการติดตามและวัดผล Virtual Bank หลังจากที่ได้เปิดดำเนินการแล้วจะมีการการติดตามมี 2 ระดับ ได้แก่ 1.ระดับ Virtual Bank แต่ละแห่ง: ธปท. จะติดตามเป็นรายแห่งว่ามีการดำเนินการตามแผนธุรกิจและสามารถให้บริการกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่ได้รับบริการอย่างเพียงพอ (Underserved/Unserved) ได้ตามตัวชี้วัด (KPI) ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ และ 2.ระดับภาพรวมของระบบ: ธปท. จะประเมินว่า Virtual Bank ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาช่องว่างในระบบการเงินของประเทศได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) รายย่อย และปัญหาเรื่องการออมของครัวเรือน เพื่อให้การบริการด้านการเงินไปสู่กลุ่มรายย่อย-SMEs อย่างทั่วถึงและยังยืนตามแผน