“กัณฑรา” ลุ้น SET ทดสอบ 1,230 จุด แนะลงทุน GULF-ADVANC เด่น

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (18 ก.ค.68) ในช่วงที่ผ่านสิ่งที่เราได้เห็นกันชัดเจน คือ ภาพรวมของ SET Index ดูดีขึ้น ทั้ง มุมมองทางเทคนิค กราฟและปริมาณการซื้อขาย ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาจนถึงระดับปัจจุบันที่ 1,200 จุด ขณะที่โอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นต่อยังมีหากผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,200 จุด อาจไปถึง 1,230 จุด

“สิ่งที่อยากฝากนักลงทุน คือ อย่าเพิ่งวิตกเกินไป เวลาดัชนีขึ้นมา 100 จุด หลายคนจะกังวลว่าจะลง 300–400 จุด ทั้งที่จริงแล้ว หากเรายังเชื่อมั่นในข้อมูลพื้นฐานของหุ้นที่ถืออยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขายออก” นายกัณฑรา กล่าว

ทั้งนี้ หากมองไปที่ภาพรวมของตลาดหุ้นนำตลาดโดดเด่นที่สุดวานนี้ คือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งมีน้ำหนักต่อดัชนีอย่างมาก และเริ่มมีสัญญาณบวกเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ AOT อาจมีบทบาทมากขึ้นในการบริหารจัดการพื้นที่จอดพักอากาศยานหรืออาจมีแนวทางให้ดึงสายการบินใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการในสนามบินมากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนให้ AOT ฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป

ขณะที่ หากดูตลาดไทยตอนนี้ต้องยอมรับว่า AOT และ DELTA ช่วยให้ตลาดมีโอกาสปรับขึ้นต่อ เพราะทั้งสองตัวนี้มีอิทธิพลสูงมากกับดัชนี SET ซึ่งเมื่อวานดัชนีปรับขึ้นกว่า 40 จุด เกินครึ่งของการปรับขึ้นมาจาก AOT และ DELTA ราว 20 จุด ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20 จุด ก็กระจายกันไปยังหุ้นตัวอื่น ๆ

กรณีความคืนหน้าเจรจาการค้า ไทย–สหรัฐ หากตัวเลขภาษีอยู่ที่ 20% +/- มองว่าเป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ แม้ว่าหากภาษีออกมามากกว่าตัวเลขข้างต้น รัฐบาลก็มีแนวโน้มออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีรายงานงบไตรมาส 2/68 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยกตัวอย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศออกมาจะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ทำให้มองว่าธนาคารส่วนที่เหลือ น่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายกัน โดยในวันนี้ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จะประกาศเป็นรายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์ไม่ได้มองหุ้นเป็นแค่กลุ่มๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่อยากให้นักลงทุนสนใจ คือ พื้นฐานแกร่ง ขณะที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน หุ้นพวกนี้แทรกอยู่ในหลายกลุ่ม

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ปัจจัยพื้นฐานยังน่าสนใจและมูลค่าพื้นฐานควรจะอยู่ที่ประมาณ 300-330 บาท แต่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน รวมไปถึง บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประเมินมูลค่าพื้นฐานไว้ที่ประมาณ 57 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาตลาดในปัจจุบันยังต้องลุ้นการผ่านแนวต้านที่ระดับ 45 บาท ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานอยู่พอสมควร