
PACO กำไรไตรมาส 2 ลดลง 28% หลังขาดทุน Fx – ต้นทุนเพิ่ม
PACO รายงานกำไรไตรมาส 2/68 ลดลง 28% มาที่ระดับ 32 ล้านบาท กดงวด 6 เดือนเหลือ 72 ล้านบาท หลังขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง พร้อมแจกปันผล 0.05 บาท ขึ้น XD 21 ส.ค.68 และกำหนดจ่าย 5 ก.ย.68
บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยบริษัทรายงานรายได้จากการขายสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 536.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายสาขาของลูกค้า ขณะที่ยอดขายในประเทศลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันจากคู่แข่งต่างประเทศที่รุนแรงขึ้น
สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย 293.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.65 โดยมีปัจจัยบวกจากยอดขายต่างประเทศเช่นเดียวกัน ส่วนยอดขายในประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายในประเทศและการแข่งขันสูง
ทั้งนี้ บริษัทมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในงวด 6 เดือน จำนวน 6.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.50 ล้านบาทจากปีก่อน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในงวด 3 เดือนอยู่ที่ 9.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.97 ล้านบาท จากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในไตรมาส 2 เช่นกัน
ส่วนรายได้อื่นในงวด 6 เดือน อยู่ที่ 10.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.10 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.22 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายเศษซากที่เพิ่มขึ้นตามราคาประมูลของเสียที่สูงขึ้น และมีกำไรจากสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ามากขึ้น ขณะที่ในงวด 3 เดือน มีรายได้อื่น 5.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.95 จากกำไรจากสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และการได้รับเงินคืนจากกองทุนประกันสังคม
ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายในงวด 6 เดือนอยู่ที่ 13.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.44 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและการตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนในงวด 3 เดือนมีค่าใช้จ่าย 7.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.45 จากสาเหตุเดียวกัน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารในงวด 6 เดือนอยู่ที่ 24.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.84 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.55 ซึ่งไม่แตกต่างจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับงวด 3 เดือน ที่มีค่าใช้จ่าย 11.92 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อน
ทั้งนี้ ในส่วนของค่าใช้จ่ายทางการเงิน งวด 6 เดือนอยู่ที่ 3.07 ล้านบาท ลดลง 1.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.08 และในงวด 3 เดือนอยู่ที่ 1.50 ล้านบาท ลดลง 0.55 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.83 เนื่องจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวในระหว่างงวด
ด้านค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในงวด 6 เดือนอยู่ที่ 16.94 ล้านบาท ลดลง 5.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.09 และในงวด 3 เดือนอยู่ที่ 6.87 ล้านบาท ลดลง 4.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.20 เนื่องจากกำไรก่อนภาษีที่ลดลง ส่งผลให้ภาระภาษีลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 จำนวน 72.27 ล้านบาท ลดลง 19.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.86 โดยมีสาเหตุหลักจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.68 – 30 มิ.ย.68 และกำไรสะสม เป็นเงินสด 0.05 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 21 ส.ค.68 และกำหนดจ่ายปันผล 5 ก.ย.68