HANN เทรดวันแรกคึก! มั่นใจรายได้ปีนี้โต Double Digit ลุยขยายฐาน “ลาว-อีสาน”

HANN เปิดเทรดวันแรกคึกคัก ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้โตสองหลัก เดินหน้าขยายตลาดลาว-อีสาน ใช้เงิน IPO สร้างและขยายโรงพยาบาล หนุนเติบโตระยะยาว


นางประภาศรี สุฉันทบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN เปิดเผยว่า หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุน ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีหลังเปิดทำการซื้อขาย สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ โดยรู้สึกยินดีอย่างมากกับการเริ่มต้นในวันสำคัญนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่า จากผลประกอบการครึ่งปีแรกที่บริษัทมียอดขายเทียบเท่ารายได้ทั้งปีของ 6-7 ปีก่อน และมีกำไรมากกว่าปีก่อน จะทำให้ครึ่งปีหลังยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่นักลงทุนได้ต่อเนื่อง

สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตในระดับ 2 หลัก (Double Digit Growth) โดยเดินหน้าขยายการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในลาว จากเดิมที่ดูแลเฉพาะแขวงสะหวันนะเขต จะขยายครอบคลุมถึงแขวงคำม่วนซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามจังหวัดนครพนม พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของโรงพยาบาลแพทย์ยโสธรด้วยการสร้างอาคารใหม่และเพิ่มแพทย์เฉพาะทาง เพื่อดึงดูดผู้ป่วยมากขึ้น ปัจจุบันรายได้จากผู้ป่วยชาวลาวคิดเป็น 17% ของรายได้รวม ซึ่งคาดว่าจะรักษาสัดส่วนใกล้เคียงเดิมในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมเพิ่มฐานลูกค้าชาวไทยควบคู่กัน โดยสัดส่วนรายได้ 73% มาจากผู้ป่วยเงินสด และอีก 27% จากประกันสุขภาพ

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO จะนำไปใช้ใน 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคาร 3 ชั้นของโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์ มูลค่า 105 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงิน IPO 47 ล้านบาท และที่เหลือกู้จากธนาคาร โดยจะเริ่มก่อสร้างกลางปี 2569 และแล้วเสร็จเดือนมกราคม 2571 เพื่อรองรับบริการผู้ป่วยนอก ห้องผ่าตัด ห้องคลอด และห้องผู้ป่วยเด็ก 15 เตียง อีกโครงการคือการทุบอาคารเก่าอายุ 40 ปีของโรงพยาบาลแพทย์ยโสธรเพื่อสร้างอาคารใหม่ 3 ชั้น มูลค่า 65 ล้านบาท ใช้เงิน IPO เต็มจำนวน คาดเริ่มก่อสร้างทันทีหลังได้รับใบอนุญาตและแล้วเสร็จภายในปี 2569

ด้านฐานะการเงินของบริษัท ณ ไตรมาส 2/2568 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.68 เท่า และหลังได้รับเงินจาก IPO จะลดลงต่ำกว่า 0.5 เท่า ผู้บริหารย้ำว่าบริษัทมีนโยบายเป็น “โรงพยาบาลแห่งลุ่มน้ำโขง” โดยมุ่งเจาะทำเลทองริมแม่น้ำโขงและขยายไปยังจังหวัดในภาคอีสานที่ยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

Back to top button