ธปท.จับมือ “ภาครัฐ-เอกชน” ขับเคลื่อน “Reinvent Thailand” สร้างพลวัตใหม่เศรษฐกิจไทย

ธปท. จับมือ ภาคเอกชน-การเงินและรัฐ เดินหน้าโครงการ “Reinvent Thailand - A Platform for Policy Co-Creation and Execution” ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย สร้างพลวัตใหม่สู่การเติบโตยั่งยืน


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (4 ก.ย.68) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนและผลักดัน โครงการ Reinvent Thailand พลวัตใหม่เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย ที่เป็นความร่วมมือภาคเอกชน ภาคการเงิน และภาครัฐ ให้นำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน

โดยโครงการ Reinvent Thailand เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตั้งแต่การออกแบบ กลั่นกรอง ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติจริง รวมถึงการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง (result-oriented) โดยมีหัวใจสำคัญ คือ การขับเคลื่อนนโยบายด้วยข้อมูลที่แม่นยำ (data-driven policy) และการสร้างแรงจูงใจที่ถูกต้อง โดยยึดหลัก “ทำดี ได้ดี” ที่ก่อให้เกิดการปรับตัวของภาคธุรกิจและประชาชน โดยภาคเอกชนจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน ขณะที่ภาครัฐจะสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเร่งปรับตัว อันจะทำให้ทุกฝ่ายมีความรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินการแบบ end-to-end ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย

ในระยะแรก โครงการ Reinvent Thailand จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงผ่าน pilot projects ในประเด็นสำคัญ โดยจะหารือกับองค์กรพันธมิตรและเปิดรับความคิดเห็นในวงกว้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและจะต่อยอดไปสู่ด้านอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ โครงการ Reinvent Thailand ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความต่อเนื่องของนโยบาย เพื่อช่วยเป็นแนวทางให้กับทุกรัฐบาลในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ เพิ่มทักษะ สร้างการจ้างงาน เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคนได้อย่างแท้จริง

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า “Reinvent Thailand ไม่ใช่เพียงการกำหนดนโยบาย หรือเป็นการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ให้ภาคเอกชนและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ กลั่นกรอง และมีความรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินการ (joint commitment) โดยภาครัฐทำหน้าที่สนับสนุนและสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับตัว นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะเป็น “เข็มทิศ” ที่ช่วยกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศในระยะยาว”

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานานจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่สามารถแก้ไขด้วยมาตรการระยะสั้นหรือโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น โครงการ Reinvent Thailand ถือเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างพลวัตใหม่ให้เศรษฐกิจไทยสามารถแข่งขันได้และเติบโตอย่างยั่งยืน”

เชิญอ่าน ร่างพิมพ์เขียวการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ พลวัตใหม่เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย

Back to top button