“อนุทิน” ลุยแก้ 4 วิกฤตเร่งด่วน ก่อนยุบสภา 4 เดือน คืนอำนาจประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเข้ารับตำแหน่ง โดยกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมแสดงความตระหนักถึงข้อจำกัดในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยืนยันจะทุ่มเททำงานอย่างสุดกำลัง ทั้งกำลังกายและกำลังสมอง เพื่อพาประเทศไทยก้าวพ้นวิกฤตโดยเร็วที่สุด

พร้อมกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงมติไว้วางใจ โดยเฉพาะจากพรรคประชาชนที่เสียสละให้การสนับสนุนเพื่อให้ประเทศมีทางออก และหลังจากนั้นก็กลับไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านตามเจตนารมณ์เดิม รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และสมาชิกจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อรับใช้ประชาชน

ทั้งนี้ นายอนุทิน กำหนดประเด็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาประเทศไว้ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ จะเร่งลดค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้าและพลังงาน รวมถึงค่าขนส่ง พร้อมหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยในการปลดหนี้ เสริมสร้างรายได้ใหม่ให้กับผู้ประกอบการ และสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนท้องถิ่น ด้านความมั่นคง จะใช้แนวทางสันติภาพแก้ปัญหากรณีพิพาทไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าไทยจะไม่สูญเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว พร้อมเร่งชดเชยผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ด้านภัยพิบัติ นายอนุทิน ย้ำว่าจะเร่งต่อยอดระบบเตือนภัย การป้องกันภัย และการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัย โดยอาศัยประสบการณ์จากช่วงที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อให้การช่วยเหลือไม่สะดุดและประชาชนได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง ขณะที่ ด้านภัยสังคม รัฐบาลตั้งเป้าปราบปรามยาเสพติด การพนัน และอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติในการกำจัดภัยคุกคาม

นายอนุทิน ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่จะปล่อยให้กลไกที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายทำงานอย่างโปร่งใสและเท่าเทียมกัน พร้อมเร่งรัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังประกาศว่าจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามเจตนารมณ์ของประชาชน ภายในกรอบเวลา 4 เดือน และหลังจากนั้นจะคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตประเทศด้วยตนเอง

พร้อมย้ำว่าในระยะเวลา 4 เดือนของการทำงาน รัฐบาลภายใต้การนำของตนจะไม่หยุดพัก ไม่ลาพักร้อน และจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า พร้อมสร้างรากฐานที่มั่นคงให้รัฐบาลชุดต่อไปสามารถสานต่อ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุข ความมั่นคง และความสามัคคีของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน พร้อมปฏิญาณว่าจะทำงานตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์