
เปิดโผ 10 หุ้นเด่น ยีลด์สูง 6.9-10.7% ลุ้นรับอานิสงส์มาตรการ “เว้นภาษีเงินปันผล”
เปิด 10 หุ้นเด่นยีลด์สูง 6.9–10.7% รับอานิสงส์ ตลท.-สมาคมนักวิเคราะห์ลงทุน เตรียมเสนอคลังยกเว้นภาษีเงินปันผล หวังกระตุ้นลงทุนยาว โบรกชี้ SAT, SCB, NER, SIRI, TISCO เด่น
ตลาดทุนไทยมีโอกาสได้เห็นมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ เมื่อบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมนักวิเคราะห์ลงทุน เตรียมเสนอว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” มาตรการชุดใหม่ หวังดึงดูดนักลงทุนระยะยาว เสริมเสถียรภาพ และเพิ่มความยั่งยืนให้กับตลาดหุ้นไทย
โดยนายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอแพ็กเกจกระตุ้นตลาดทุนต่อกระทรวงการคลัง ภายใต้แนวคิดสร้างแรงจูงใจให้ผู้ลงทุนถือครองหุ้นไทยในระยะยาว เพื่อช่วยลดความผันผวนและเพิ่มสภาพคล่องในระบบมาตรการที่เสนอประกอบด้วย 5 แนวทางหลัก ได้แก่
1.ยกเว้นภาษีเงินปันผล สำหรับผู้ถือหุ้นไทยเกิน 1 ปี เพื่อหนุนการลงทุนระยะยาว
2.สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้ สูงสุด 500,000 บาทต่อปี สำหรับผู้ลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นไทย โดยต้องคงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่สามารถสับเปลี่ยนหุ้นได้
3.สนับสนุนกองทุน Thai ESG คนละ 300,000 บาทต่อปี และปรับให้เป็นมาตรการถาวร เพื่อเลี่ยงปัญหาซ้ำรอย LTF
4.ดึงเม็ดเงินบริษัทประกันชีวิต โดยลดค่าความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจาก 25% เหลือ 10% เพื่อเพิ่มแรงจูงใจลงทุน
5.เพิ่มบทบาทกองทุนภาครัฐ เช่น กองทุนประกันสังคม และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า หากมาตรการเหล่านี้มีผลบังคับใช้จริง จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ ซึ่งเหมาะสมกับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนคงที่
ทั้งนี้ DAOL ได้ยกตัวอย่าง 10 หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าว ได้แก่ SAT, SCB, NER, SIRI, TISCO, PRM, AAI, PTTEP, SUN และ TTB โดยให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568–2569 อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องระหว่าง 6.9–10.7%
โดยบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 10.70% ต่อปี
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 8.7–8.9% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 8.3–8.9% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 8.3–8.9% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 7.7% ต่อปี
บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 7.40-7.20% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 7.20-8.20% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 7.20-6.90% ต่อปี ตามลำดับ
บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 7.00-8.40% ต่อปี ตามลำดับ
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568-2569 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 6.90-7.00% ต่อปี ตามลำดับ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สภาตลาดทุนไทย (FETCO) เตรียมส่งหนังสือขอเข้าพบ รมว. คลัง โดยมีแผนนำเสนอแนวคิดกองทุนออมหุ้นระยะยาว (TISA) และต่ออายุ SSF เราแนะนำติดตามผลตอบรับของรัฐฯ ต่อแนวคิด TISA หากเกิดขึ้นส่งผลบวกต่อสภาพคล่องภายในอย่างมีนัยฯ คล้าย NISA ในญี่ปุ่น ส่วน SSF อาจจะเป็นจิตวิทยาลบเล็กๆ ที่ทำให้กองทุน ThaiESG อาจได้รับความสนใจต่ำลง จากเงื่อนไขที่เลือกลงทุนต่างประเทศได้สำหรับ SSF