CENTEL-ERW ท็อปพิก! รับแคมเปญ “ททท.-Trip.com” มอบส่วนลดดึง “จีน” เที่ยวไทย

ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ Trip.com Group ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อฟื้นฟูและผลักดันการเติบโตของตลาด นักท่องเที่ยวจีน สู่ประเทศไทย โดยเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “Nihao Month” นครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน สร้างแรงกระเพื่อมให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยช่วง High Season ปลายปี 2568 พร้อมเชื่อมโยงบรรยากาศแห่งความสุขของเทศกาลไหว้พระจันทร์และสัปดาห์ทองวันชาติจีนเข้ากับประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย

สำหรับ ความสำคัญการร่วมมือครั้งนี้ คือ โปรแกรมมอบส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ระหว่างวันที่ 15 กันยายน ถึง 31 ตุลาคม 2568 กับส่วนลดตั๋วเครื่องบินสูงสุด 2,950 บาท และที่พัก 10% (ไม่เกิน 2,100 บาท) เมื่อจองผ่านแพลตฟอร์ม Ctrip ของ Trip.com Group และเป็นโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต “ไทย-จีน” และต่อยอดจากนโยบายยกเว้นวีซ่าถาวรที่เริ่มใช้ตั้งแต่มีนาคม 2567 ซึ่งช่วยพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย ทำให้ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยถึง 6.73 ล้านคน ยืนยันสถานะตลาดจีนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่งของไทย

ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 8-14 กันยายน 2568 นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 17.64% จากสัปดาห์ก่อนหน้า อาทิ การมีวันหยุด Malaysia Day

ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 565,319 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 56,978 คน หรือ 11.21% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 80,760 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 143,363 คน จีน 66,945 คน อินเดีย 54,182 คน ญี่ปุ่น 25,781 คน และเกาหลีใต้ 21,981 คน

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ 15-21 กันยายน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการสิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6 รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

จากข่าวดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOLSEC ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่าความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นปัจจัยบวกจากการให้ส่วนลดทั้งเครื่องบินและโรงแรมแก่นักท่องเที่ยวจีน โดยเริ่มเดือน กันยายน-ตุลาคม 2568 ซึ่งครอบคลุมช่วงวันชาติจีน (ช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2568) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นได้ดี

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าโครงการนี้น่าจะอยู่ในงบประมาณจากภาครัฐที่ 800 ล้านบาท ที่เป็นการทาตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่าน “แพลตฟอร์มออนไลน์” (OTA: Online Travel Agent) ซึ่งหากนาส่วนลดทั้งหมดที่ 5,050 บาท (คิดจากเครื่องบินสูงสุด 2,950 บาท และส่วนลดโรงแรมสูงสุด 2,100 บาท) จะทำให้มีนักท่องเที่ยวที่ได้สิทธิ์ราว 160,000 คน

สำหรับหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR

นอกจากนั้้น ฝ่ายนักวิเคราะห์มองเป็นบวกต่อกลุ่มสายการบินที่จะช่วยกระตุ้นผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศจากจีนเดินทางเข้าไทยมากขึ้น และมีการต่อเครื่องสาหรับการเดินทางในประเทศ สำหรับหุ้นสายการบินของไทยที่จะได้ประโยชน์มากสุด ได้แก่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV มีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินจีนราว 10% ซึ่งทำให้จะมี upside จากประมาณการเดิมของ AAV ได้ และมีโอกาสดีขึ้นจากเดิมที่ AAV ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 1.20 บาท

ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดยมีหุ้น Top pick ของกลุ่ม CENTEL แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำไรไตรมาส 3 ปี 2568 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า หลังรับรู้ยอด Booking และการเติบโตของรายได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ไตรมาส 2 ปี 2568 เป็นจุดต่ำสุดของปี

ERW แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2568 จะหดตัวจากปีก่อน แต่ยังคงเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าเพราะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2 ปี 2568 2Q25 และจะฟื้นตัวได้ดีในไตรมาส 4 ปี 2568 พร้อม Valuation ซื้อขายที่ 15 เท่า ถูกสุดเมื่อเทียบกับ MINT ที่ 16 เท่า และ CENTEL ที่ 21 เท่า