
แนวโน้ม SET อ่อนตัว หลังดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลด์สูง
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดอ่อนตัวตาม Sentiment โลก หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งเกินคาด กดดันให้นักลงทุนคาดเฟดเลื่อนลดดอกเบี้ย ขณะบอนด์ยีลด์พุ่งสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ กดดัน Fund Flow
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ย.68) นักวิเคราะห์ระบุ ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีอ่อนตัว ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันจากการที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ายา 100% เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้
ขณะเดียวกันดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและเงินบาทอ่อนตัวกดดัน Fund flow อย่างไรก็ตามหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะแถลงในสัปดาห์หน้า โดยให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด แนวรับถัดไป 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด แนวต้านถัดไป 1,300-1,305 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีอ่อนตัวลง ถูกดดันจาก Sentiment โลกที่กดดันบรรยากาศการลงทุน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ ตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/68 เติบโตดีกว่าคาดและขยายตัวจากครั้งก่อน รวมทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลง อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ กดดันมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากข่าวที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษียานำเข้า 100% โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งแม้ผลกระทบโดยตรงต่อไทยอาจมีจำกัด เนื่องจากจะส่งผลต่อประเทศในยุโรปหรือประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรยาเป็นหลัก แต่ข่าวดังกล่าวสร้างบรรยากาศเชิงลบและเพิ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุนโดยรวม
ขณะเดียวกัน การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศที่ก่อนหน้านี้ Fitch Ratings มีการปรับลดมุม
มองความน่าเชื่อถือของไทย (Outlook) จาก “มีเสถียรภาพ” (Stable) ลงเป็น “เชิงลบ” (Negative) กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแตะระดับอ่อนสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งอาจกระทบต่อ Fund Flow ได้ อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับตัวลงของดัชนีอาจไม่มาก เนื่องจากตลาดยังคงมีความหวังต่อการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะออกมาอย่างรวดเร็ว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำกลุ่ม Domestic Play ซึ่งเป็นหุ้นที่อิงกับการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ หุ้นกลุ่ม Yield Play ที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในประเทศโดยให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด แนวรับถัดไป 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด แนวต้านถัดไป 1,300-1,305 จุด