ที่ปรึกษาทางการเงิน อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในตลาดทุน

ถ้าคุณกำลังจะซื้อบ้านในฝันหลังแรก ภาพโฆษณาบ้านสวย ๆ อาจไม่พอสำหรับการตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งไม่ต่างกับการตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินต่าง ๆ ที่ต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจก่อนลงทุนจากแหล่งต่าง ๆ แต่ในโลกการลงทุนนั้นมีตัวช่วยตรงที่มีผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องคอยช่วยคัดกรอง วิเคราะห์  ตรวจสอบหรือสอบทานข้อมูล เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจลงทุน

หนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพที่ทำหน้าที่เป็นด่านกรอง หรือ Gatekeeper ที่หลายคนคุ้นชื่อ เพราะเคยเห็นในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวน (Filing) ก็คือ “ที่ปรึกษาทางการเงิน” หรือ FA (Financial Advisor) แล้ว FA ทำหน้าที่อะไร วันนี้จะขอมาเล่าให้ฟังค่ะ

FA  มีหน้าที่สำคัญ ในการให้คำปรึกษากับบริษัทที่จะเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับประชาชน ตรวจสอบคุณภาพบริษัท หรือที่เรียกว่า การทำ due diligence ให้มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด จัดเตรียมเอกสารการขออนุญาตและเปิดเผยข้อมูลยื่นต่อ ก.ล.ต. คอยตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของข้อมูลในหนังสือชี้ชวน รวมทั้งดูแลให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน

เพราะบริษัทย่อมนำเสนอภาพสวยงามให้นักลงทุนเห็นเท่านั้น FA จึงเป็นด่านแรกที่ทำให้ผู้ลงทุนเห็นภาพว่าการลงทุนที่อยู่ตรงหน้ามีโอกาส ความเสี่ยง และข้อจำกัดอย่างไร อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีคนมาช่วยตรวจสอบ หรือสอบทาน วิเคราะห์ข้อมูล ก็ไม่สามารถการันตีได้ 100 % ว่าจะป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบหรือสอบทานอย่างละเอียดรอบคอบและระมัดระวังจากที่ปรึกษาทางการเงินย่อมดีกว่าแน่นอนค่ะ

ปกติแล้วที่ปรึกษาทางการเงินนั้นต้องเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และมีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ โดย ก.ล.ต. ได้กำหนดมาตรฐานการกำกับดูแล สนับสนุน และผลักดันให้ FA พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกำหนดคุณสมบัติที่ชัดเจน มีการปรับปรุงคู่มือการทำงาน ตลอดจนสร้างระบบฐานข้อมูลเพื่อสะท้อนคุณภาพงานของ FA และเปิดให้ค้นหาผลงานหรือประวัติได้โปร่งใสและตรวจสอบได้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก.ล.ต. ร่วมทำงานกับหลายฝ่าย อาทิ ชมรมวาณิชธนกิจ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และผู้ประกอบวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องอื่น กลไกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนมองปลายทางของการทำงานเป็นภาพเดียวกันนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ หากที่ปรึกษาทางการเงินรายใดละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เช่น ไม่ตรวจสอบหรือสอบทาน ข้อมูลให้ดีพอ ให้ความเห็นต่อประเด็นต่าง ๆ โดยขาดความระมัดระวังรอบคอบ ไม่ปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพที่ควรเป็น ก.ล.ต. ก็จะใช้มาตรการบังคับทางกฎหมาย โดยสั่งพักหรือเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ ซึ่งต้องบอกว่าการกำกับดูแลไม่ได้เป็นไปเพื่อสร้างภาระต่อที่ปรึกษาทางการเงินนะคะ แต่เพื่อช่วยในการพัฒนาและยกระดับวิชาชีพให้มีมาตรฐานกลาง อีกทั้งเพื่อเป็นการดูแลความเรียบร้อยของการทำหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง ในตลาดทุนนั่นเองค่ะ

ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่ปรึกษาทางการเงินได้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/LawandRegulations/Financialadvisor.aspx และศึกษาขั้นตอน การขอความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและผู้ควบคุมการปฏิบัติงานผ่านระบบออนไลน์ “FA E-Approval” ได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/OnlineSubmissionFilings/FA-E-approval.aspx

จะเห็นได้ว่าการมีที่ปรึกษาทางการเงินที่ดำเนินการตามมาตรฐานกำหนด จะช่วยให้การเปิดเผยข้อมูลการเสนอขายผลิตภัณฑ์การลงทุนมีความครบถ้วน ตรงไปตรงมา ทำให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้บนพื้นฐานของการได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เพียงพอ อย่างโปร่งใสและเท่าเทียมกัน ที่ปรึกษาทางการเงินในฐานะ Gatekeeper  จึงถือเป็นฟันเฟืองสำคัญหนึ่งที่ทำให้ตลาดทุนไทยแข็งแรง และในอนาคต ที่ปรึกษาทางการเงินจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพราะนักลงทุนต่างต้องการลงทุนในตลาดทุนที่มีความน่าเชื่อถือ ลงทุนในตลาดทุนที่รองรับการแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับโลกได้นั่นเอง

คอลัมน์ชวนคิด ชวนคุย กับ ก.ล.ต.: โดยนางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.