
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 300 จุด ขานรับ “เงินเฟ้อสหรัฐ” ส.ค. ขยายตัว 2.7% ตามคาด
ดาวโจนส์ปิดบวก 300 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. สอดคล้องคาดการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกในวันศุกร์ (26 ก.ย.68) หลังข้อมูลเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด แต่ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวปิดลบในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,247.29 จุด เพิ่มขึ้น 299.97 จุด หรือ +0.65%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,643.70 จุด เพิ่มขึ้น 38.98 จุด หรือ +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,484.07 จุด เพิ่มขึ้น 99.37 จุด หรือ +0.44%
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 2.9% เช่นกันในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค.
บรรดานักลงทุนทำการประเมินระหว่างสัญญาณเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น กับความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเฟด โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เฟดเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 และส่งสัญญาณว่าจะลดเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า บรรดานักลงทุนกำลังตั้งคำถามว่าแนวทางของเฟดต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร และกำลังปรับพอร์ตเพื่อปิดไตรมาส 3 โดยเป็นเรื่องปกติของการตกแต่งพอร์ตช่วงสิ้นไตรมาส โดยคาดว่าตลาดจะผันผวนในช่วงนี้และสัปดาห์ต่อ ๆ ไป เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการซึ่งจะเริ่มขึ้นราวกลางเดือนต.ค.
Paccar หุ้นผู้ผลิตรถบรรทุก พุ่งขึ้น 5.2% หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ รวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสั่งเก็บภาษีใหม่กับยาที่มีแบรนด์ ตู้ครัว อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะ โดยหุ้น Eli Lilly เพิ่มขึ้น 1.4%
บรรดานักลงทุนยังได้รับฟังความเห็นล่าสุดจากเจ้าหน้าที่เฟด โดยโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวกับ Bloomberg Television ว่า เขามีความมั่นใจต่ำมากต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อ เนื่องจากภาษียังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่มิเชล โบว์แมน รองประธานเฟดอ้างอิงข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุด และกล่าวว่าถึงเวลาที่ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดและในเชิงรุก เพื่อรับมือกับการชะลอตัวของตลาดแรงงานและสัญญาณความเปราะบางที่เริ่มปรากฏให้เห็น
นักลงทุนจะจับตารายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. ซึ่งจะเผยแพร่ในวันศุกร์หน้า อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลเนื่องจากขาดงบประมาณก็อาจทำให้การเผยแพร่ข้อมูลสะดุด และเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด