ททท.คาดนักท่องเที่ยวจีนฟื้น บล.ดาโอชู “ERW-CENTEL-MINT-SHR” รับอานิสงส์

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงวันชาติจีน หรือ China Golden Week ระหว่างวันที่ 26 ก.ย. – 8 ต.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวรวม 13 วัน ปีนี้ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 200,000 คน ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 262,000 คน ก่อให้เกิดรายได้ 9,100 ล้านบาท ลดลง 17% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 10,913 ล้านบาท

ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 6,600 บาทต่อคนต่อวัน และพักเฉลี่ย 6–8 คืนต่อทริป
แม้จำนวนลดลง แต่สัญญาณการเดินทางแบบรายวันเริ่มฟื้นตัวจากยอดจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจีนจองล่วงหน้าประมาณ 15–40 วัน และนิยมเดินทางเป็นกลุ่มเล็กไม่เกิน 9 คน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นกลางต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาในช่วง Golden Week ว่า “เป็นไปตามคาด” โดยจากการประมาณการของ ททท. ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนช่วง China Golden Week จะลดลง 24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการ “ติดลบน้อยลง” เมื่อเทียบกับรายสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลดลงราว 35–40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน

นอกจากนี้ ยอดจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ที่เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน สะท้อนถึงการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนได้บางส่วน

โดย หุ้นที่ได้รับประโยชน์ จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตาม สัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR

ทั้งนี้บล.ดาโอ ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top Pick ของกลุ่ม โดยเลือก CENTEL, ERW

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL มีคำแนะนำ “ซื้อ”  ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท ซึ่งจากกำไรไตรมาส 3/2568 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากยอด Booking และการเติบโตของรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ไตรมาส 2/2568  เป็นจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW มีคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2568 จะหดตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2568 และจะฟื้นตัวได้ดีในไตรมาส 4/2568