AEONTS กวาดกำไร 6 เดือนแตะ 1.5 พันล้าน เคาะแจกปันผล 2.55 บาท

บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 สิ้นสุดณ วันที่ 31 ส.ค.68 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยบริษัทมีรายได้รวม 5,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 4 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 10,867 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ลดลง แม้รายได้จากการให้เช่าซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการพัฒนากระบวนการชำระเงินและการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ

ทั้งนี้ในส่วนของรายได้จากบัตรเครดิต ไตรมาส 2 ปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้ 1,710 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11 จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อน โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการบริโภคในหมวดบริการ รวมถึงยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตที่ลดลงหลังการปรับอัตราการชำระขั้นต่ำจาก 5% เป็น 8% และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้เป็นสินเชื่อผ่อนชำระระยะยาว เพื่อบรรเทาภาระและเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์บริหารสิทธิประโยชน์บัตรเครดิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาดและสร้างความยั่งยืนของรายได้ในระยะยาว โดยรายได้จากบัตรเครดิตคิดเป็นร้อยละ 31.4 ของรายได้รวม

รายได้จากสินเชื่อเงินกู้ในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 2,371 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 จากไตรมาสก่อน สะท้อนการชะลอตัวของพอร์ตสินเชื่อไม่มีหลักประกันจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นให้ลูกค้าที่ไม่เคลื่อนไหวกลับมาใช้บริการ (“wake-up customers”) ผ่านอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่สร้างรายได้ดอกเบี้ยต่อเนื่อง รายได้สินเชื่อเงินกู้คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.8 ของรายได้รวม

รายได้จากสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองเป็นหลัก จากการขยายเครือข่ายพันธมิตรทั้งในกลุ่มรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้สินเชื่อเช่าซื้อคิดเป็นร้อยละ 6.7 ของรายได้รวม ทั้งนี้ สินเชื่อเช่าซื้อจะอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตามหลักการ Market Conduct

ด้าน รายได้อื่น บริษัทมีรายได้รวม 1,031 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้หนี้สูญรับคืน 589 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11 ของรายได้รวม สะท้อนประสิทธิภาพในการติดตามหนี้และการเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ของกรมบังคับคดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย 168 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1 จากปีก่อน รวมถึงรายได้จากการขายลูกหนี้ที่ตัดจำหน่ายแล้วจำนวน 102 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 41 จากปีก่อน รายได้อื่นรวมคิดเป็นร้อยละ 19 ของรายได้รวม โดยบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้อื่นเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 2.55 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล (XD) ในวันที่ 21 ต.ค.68 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 6 พ.ย.68