
AP กำไรไตรมาส 3 เหลือ 1.15 พันล้าน หด 20% ลุ้น Q4 ผลงานฟื้นตัว โบรกชูเป้า 9 บาท
AP รายงานงบไตรมาส 3/68 เหลือ 1.15 พันล้านบาท ลดลง 20% จากปีก่อนมีกำไร 1.44 พันล้านบาท โบรกชี้ผลงานไตรมาส 4/68 ฟื้นตัว ต่อเนื่องปี 2569 โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9 บาท
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 /2568 และงวด 9 เดือนแรกของปี 68 สิ้นสุด 30 กันยายน 2568 ดังนี้
สำหรับ AP รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,154.41 ล้านบาท ลดลง 20.38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,449.84 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้รวมลดลงมาอยู่ที่ 9,124 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขาย 8,871 ล้านบาท ลดลง 7.8% และรายได้ค่าบริการและค่าบริหารจัดการ 253 ล้านบาท ลดลง 22.9%
สำหรับรายได้จากกลุ่มแนวราบ ยังคงเป็นฐานรายได้หลักของบริษัท โดยมีรายได้อยู่ที่ 8,611 ล้านบาท ลดลงเพียง 0.6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากโครงการเดิมและการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2568
ขณะที่รายได้จากคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 125 ล้านบาท ลดลง 83.9% จากปีก่อน เนื่องจากสินค้าคงเหลือในโครงการพร้อมโอนลดลง โดยในไตรมาสนี้มีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ “Aspire อรุณ พรีเว่” แล้วเสร็จ
นอกจากนี้ บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในกิจการร่วมค้า 315 ล้านบาท ลดลง 7.6% จากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นถึง 266.2% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ของ 2 โครงการใหม่ ได้แก่ “Aspire สุขุมวิท พระราม 4” และ “Aspire อ่อนนุช สเตชั่น” ซึ่งยังคงมียอดโอนที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสดังกล่าว
บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า AP ประกาศกำไรไตรมาส 3/2568 ที่ 1.15 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังลดลง 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดที่ 1.14 พันล้านบาท
โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม JV ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียม JV เพิ่มขึ้น 266% เป็น 315 ล้านบาท รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น GPM ที่ปรับเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 31.4% หลังส่วนผสมผลิตภัณฑ์ดีขึ้น (จากโครงการใหม่) แม้รายได้ยังลดลง 8%
ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงซึ่งทำให้รายได้ลดลง 8% เป็น 9 พันล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียม JV ลดลง 8% เช่นกัน รวมถึงการแข่งขันที่สูงกว่าปีก่อนที่ทำให้ GPM ลดลง 0.8% เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับภาพรวมกำไร 9 เดือนปี 2568 ยังปรับลดลง 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 3 พันล้านบาท และคิดเป็นราว 69% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ของเรา
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ AP โดยคงราคาเป้าหมายที่ 9 บาท ราคาปิดล่าสุด ซื้อขายบน PER ปี 2568 ที่เพียง 5.7 เท่า และให้ DY ราว 6.9% ทิศทางผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/2568 ต่อเนื่องปี 2569 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้นที่สำคัญ


