SUPER ต่อสัญญาเช่าสำนักงาน 3 ปี – อัปเดตคดีเงินกู้ KT ลุ้นปรับโครงสร้างหนี้เสร็จ มิ.ย.69

บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 มีมติอนุมัติให้บริษัทต่ออายุสัญญาเช่าสำนักงานกับ บริษัท บางนา แอสเซ็ท จำกัด เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2571 โดยมีมูลค่าค่าเช่ารวมตลอดอายุสัญญา 66.18 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามงบการเงินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NTA) อยู่ที่ 15,900.78 ล้านบาท ส่งผลให้รายการดังกล่าวคิดเป็น 0.42% ของมูลค่า NTA

พื้นที่เช่าดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารคันทรี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ ถนนสรรพาวุธ กรุงเทพมหานคร โดยมีการปรับอัตราค่าเช่าจากเดิม 362 บาทต่อตารางเมตร เป็น 369 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 1.93% คิดเป็นค่าเช่าเพิ่ม 34,872.81 บาทต่อเดือน หรือรวม 1,255,421.16 บาท ตลอดอายุสัญญา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับอาคารสำนักงานในพื้นที่ใกล้เคียงพบว่า อัตราค่าเช่าดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสมและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด จึงถือว่าเป็นระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้

นอกจากนี้ บริษัทได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ผู้กู้ยืมที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเงินกู้ โดยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ศาลแพ่งได้สอบถามความคืบหน้า และ KT แจ้งต่อศาลว่าอยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายในการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อขออนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า และคาดว่าจะเริ่มดำเนินกิจการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบภายในเดือนพฤศจิกายน 2568

ทั้งนี้ KT และบริษัท ซุปเปอร์ เอ็นเนอร์ยี เอนเนอร์ยี 5 จำกัด (SEE5) คาดว่าจะดำเนินการทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสัญญาประนีประนอมยอมความให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2569 โดยศาลแพ่งได้นัดติดตามความคืบหน้าอีกครั้งภายในเดือนกรกฎาคม 2569

กลุ่มบริษัทได้บันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตสำหรับเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแล้ว จำนวน 98.82 ล้านบาท ตามจำนวนที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 และได้จัดประเภทเป็นเงินให้กู้ยืมระยะยาว เนื่องจากคาดว่าจะยังไม่สามารถได้รับชำระคืนภายในหนึ่งปีนับจากวันปิดงบ

SUPER ระบุว่า หากโรงงานเปิดดำเนินการและสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จตามแผนในเดือนมิถุนายน 2569 กลุ่มบริษัทคาดว่าจะทยอยได้รับชำระหนี้จาก KT ตามปกติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของ SEE5 ในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม บริษัทจะรายงานให้ทราบต่อไป