“ชัยยศ” มองเป้า SET สิ้นปีแตะ 1,370 จุด พร้อมคัด 4 ธีมน่าลงทุน

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (19 พ.ย.68) ว่า ฝ่ายวิจัยยังคงเป้าหมายดัชนี SET Index สิ้นปีไว้ที่ 1,370 จุด แต่ยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายเริ่มท้าทายมากขึ้นจากสภาวะตลาดที่ซบเซาในช่วงปลายปี โดยบรรยากาศการลงทุนในปัจจุบันถูกกดดันจากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ความผันผวนสูงและสร้างความยากลำบากต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

ด้านปัจจัยภายนอก ตลาดประเมินว่า Fed อาจยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขาดความต่อเนื่องหลังเกิดเหตุ Government Shutdown ส่งผลให้ Fed ต้องรอประเมินข้อมูลเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงถูกมองว่าอ่อนแอ เพิ่มความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายการเงิน นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ทั่วโลกที่ปรับขึ้นแรงในช่วง 2–3 ปีจนมีมูลค่าสูง ยังเผชิญแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักเมื่อมีข่าวลบเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังมีแรงหมุนเงินไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและเงินดอลลาร์ รวมถึงภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาค ทั้งจีนและญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในภาวะอ่อนตัว

สำหรับปัจจัยในประเทศ ความไม่แน่นอนทางการเมืองกลับมาเป็นแรงกดดันอีกครั้ง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวันในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายังอยู่ในระดับต่ำไม่ถึง 30,000 ล้านบาท แม้จะผ่านช่วงประกาศงบไตรมาส 3 แล้วก็ตาม สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนที่ส่วนใหญ่เลือกชะลอการลงทุนหรือเก็งกำไรเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้โอกาสที่ดัชนี SET จะไต่ขึ้นไปถึงระดับ 1,370 จุดในสิ้นปีมีความยากมากขึ้น แม้ฝ่ายวิจัยยังคงเป้าหมายเดิมก็ตาม

สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3 ของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงออกมาสดใส ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 4 มีทิศทางเชิงบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากฤดูกาลท่องเที่ยวและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงหนุนบรรยากาศการลงทุนในช่วงปลายปี ดังนี้

กลุ่ม ICT ยังคงทำผลงานได้ดีในไตรมาส 3 และมีแนวโน้มโดดเด่นต่อเนื่องในไตรมาส 4 แม้ไม่มีปัจจัยบวกเฉพาะเจาะจงเพิ่มเติม แต่ความต้องการใช้บริการดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตที่ขยายตัวต่อเนื่องช่วยหนุนภาพรวมอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างมั่นคง

ขณะที่ กลุ่มโรงกลั่น ยังคงทำผลงานได้ดีในไตรมาสที่ผ่านมา และมีแนวโน้มทรงตัวในระดับแข็งแกร่งในไตรมาส 4 โดยค่าการกลั่น (GRM) ยังคงอยู่ในระดับสูง จากผลกระทบของการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย และสถานการณ์โจมตีคลังน้ำมันในหลายภูมิภาค ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันอุปทานน้ำมันในตลาดโลก

ด้านกลุ่มโรงพยาบาลและธุรกิจ Healthcare ยังคงรายงานผลประกอบการที่ดีในไตรมาส 3 แต่ในไตรมาส 4 ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนเพิ่มเติม ทำให้ทิศทางอาจทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว คาดว่าจะโดดเด่นเป็นพิเศษในไตรมาส 4 หลังจากภาพรวมไตรมาส 3 ยังคงทรงตัว โดยเข้าสู่ช่วง High Season และได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ หนุนโมเมนตัมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี