NT เปิดโครงข่ายใต้น้ำ ADC หนุนไทยสู่ฮับดิจิทัลอาเซียน
NT เปิดโครงข่ายใต้น้ำ ADC อย่างเป็นทางการ เพิ่มขีดความสามารถโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมไทย รองรับ 5G–AI–IoT พร้อมผลักดันประเทศสู่ Thailand 4.0
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดใช้งานโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ Asia Direct Cable หรือ เอดีซี อย่างเป็นทางการ โดยมีระยะทางรวมกว่า 9,988 กิโลเมตร เชื่อมต่อประเทศสำคัญในเอเชีย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้ง), ประเทศญี่ปุ่น, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, สาธารณรัฐสิงคโปร์, ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พิธีเปิดจัดขึ้น ณ จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับความต้องการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และเสริมความแข็งแกร่งให้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของภูมิภาคเอเชีย
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดใช้งานโครงข่าย เอเชีย ไดเร็กต์ เคเบิล ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมระหว่างประเทศ เอ็นทีมีบทบาทครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ วางเส้นทาง ไปจนถึงการบูรณาการระบบเข้าสู่การให้บริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็ว ความเสถียร และความปลอดภัยของการรับ–ส่งข้อมูลข้ามพรมแดน อันเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่
โดยโครงการ เอดีซี เป็นความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชีย ได้แก่ เอ็นที, ซีทีซี, ซีทีจี, ซียู, พีแอลดีที, ซิงเทล, ซอฟต์แบงก์, เวียตเทล และ ทาทา คอมมูนิเคชันส์ ประเทศไทยได้เข้าร่วมลงทุนและเชื่อมต่อระบบที่สถานีเคเบิลใต้น้ำชลี 3 จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเอ็นที เพื่อรองรับการเติบโตของข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ เช่น เครือข่ายโทรคมนาคมยุคที่ห้า ปัญญาประดิษฐ์ ระบบคลาวด์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง เมืองอัจฉริยะ และข้อมูลขนาดใหญ่
พันเอก สรรพชัยย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของโครงการนี้สะท้อนถึงความพร้อมของเอ็นทีในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารของประเทศให้มั่นคง ทันสมัย และแข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบโทรคมนาคมเพื่อสนับสนุนความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
สำหรับโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ เอเชีย ไดเร็กต์ เคเบิล ถือเป็นก้าวสำคัญของภูมิทัศน์โทรคมนาคมไทยภายใต้นโยบายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอ็นทีในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่แข็งแกร่ง ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และสนับสนุนการพัฒนาดิจิทัลที่ยั่งยืนของประเทศไทย
