CGSI เพิ่มน้ำหนักลงทุน “หุ้นนิคม” ชี้ไทยเป้าหมายหลักย้ายฐานผลิต แนะซื้อ WHA-AMATA

CGSI ปรับเพิ่มคำแนะนำกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมไทยเป็น Overweight ชี้ไทยเป็นเป้าหมายหลักของจีนและบริษัทข้ามชาติในการย้ายฐานผลิต พร้อมแนะนำซื้อ WHA ราคาเป้าหมาย 4.14 บาท และ AMATA ราคาเป้าหมาย 23.90 บาท


ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า อุปสงค์การย้ายฐานการผลิตตามกลยุทธ์ China+1 ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทจีนและบริษัทข้ามชาติมักเลือกอาเซียนเป็นจุดหมายหลัก ขณะที่สหรัฐเก็บภาษีจากเวียดนามและไทยต่ำกว่าจีนถึง 27-28% ทำให้ทั้งไทยและเวียดนามเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการย้ายฐานการผลิต

นอกจากนี้ ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทย (ไม่รวมการลงทุนใน data centre หรือ DC) ในช่วง 9 เดือนของปีนี้ ยังเติบโตสูงถึง 23.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 7.618 แสนล้านบาท

อีกทั้ง ความชัดเจนเรื่องอัตราภาษีที่สหรัฐจะเก็บจากสินค้าจีนและเกณฑ์ที่กำหนดสินค้าสวมสิทธิ์ อาจช่วยเร่งการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจีนในปี 2569-2570 ฝ่ายวิเคราะห์ฯ จึงปรับประมาณการยอดขายที่ดินใหม่ของผู้ประกอบการที่ศึกษาขึ้น 3.4-13.6% ในปี 2569-2570 เท่ากับว่ายอดขายที่ดินปี 2569 ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จะอยู่ที่ 2,000 ไร่, บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA 1,172 ไร่ และ PIN 570 ไร่

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ CGSI ได้วิเคราะห์ความอ่อนไหวของผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐต่อยอดขายที่ดินของ WHA และ AMATA โดยกรณีที่ตั้งสมมติฐานว่ามาตรการภาษีจะส่งผลกระทบปานกลางหรือทำให้ FDI ไหลเข้าไทยลดลง 10-20% และชะลอการย้ายฐานการผลิตตามกลยุทธ์ China+1 ในระดับหนึ่ง กรณีนี้ ประมาณการว่า WHA และ AMATA จะมียอดขายที่ดินเฉลี่ย 3,312 ไร่ต่อปีในปี 2569-2571 หรือลดลงจาก 5,553 ไร่ในปี 2567 (ก่อนสหรัฐตั้งกำ0แพงภาษี) ซึ่งยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 1,732 ไร่ต่อปีในปี 2556-2565 เกือบเท่าตัว

ขณะที่กรณีแย่สุด คาดว่ามาตรการภาษีจะทำให้ FDI ลดลง 40-60% หรือใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 51-52 ซึ่งจะกระทบประมาณการกำไรจากการดำเนินงานปกติ 3.7-13.3% ในปี 2569-2570 ส่วนกรณีดีสุดประเมินว่า FDI จะไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้น 5-12% คล้ายกับการไหลเข้าจาก China+1 ในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติในปี 2569-2570 มี upside 3.4-12.0%

ฝ่ายวิเคราะห์ฯ มองว่า WHA จะได้ประโยชน์จากการลงทุนใน data centre หรือ DC เพิ่มขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทมีบริการจัดหาน้ำ รวมทั้งขายที่ดินและไฟฟ้าให้กับลูกค้า DC โดยตรง จึงประมาณการว่ายอดขายที่ดินจาก DC จะมีสัดส่วน เพิ่มเป็น 50% ของยอดขายที่ดินโดยรวมในปี 2569 จาก 21.7% ในปี 2567 โดยประมาณการนี้ได้รวมสัญญาใหม่สองฉบับของ WHA ในการจัดหาน้ำรวม 57 ล้านลูกบาศก์เมตรให้ลูกค้า DC และคาดว่ารายได้จากการจำหน่ายน้ำให้ลูกคา DC จะมีสัดส่วนเพิ่มจาก 0% ในปี 2567 เป็น 26.5% ของรายได้รวมจากธุรกิจ สาธารณูปโภคภายในปี 75

ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมไทยจาก Neutral เป็น Overweight เพราะมาตรการภาษีของสหรัฐส่งผลกระทบต่อแนวโน้มความต้องการที่ดินน้อยกว่าที่คาด ขณะที่กลุ่มนี้ซื้อขายที่จุดต่ำสุดหรือ -2SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลังห้าปี ซึ่งมองว่าเป็น oversold ยังแนะนำ “ซื้อ” AMATA ที่ราคาเป้าหมาย 23.90 บาท เนื่องจากมีแนวโน้มทำรายได้ชัดเจน

อีกทั้ง แนะนำ “ซื้อ” WHA และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.14 บาท เท่ากับ P/E 12.1 เท่าในปี 70 เพราะเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการ Data centre ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปรับเพิ่มคำแนะนำ PIN จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.48 บาท เท่ากับ P/E 4.2 เท่าในปี 70 ด้วยยอดขายที่ดินที่ แข็งแกร่งจากโครงการใหม่ในปี 2569

ทั้งนี้ downside risk ของกลุ่มคือ การที่สหรัฐปรับเพิ่มอัตราภาษีของอาเซียน ส่วนปัจจัยบวกคือการที่ WHA และ AMATA มียอดขายที่ดินแข็งแกร่งกว่าคาดในไตรมาส 4/2568-ปี 2569

Back to top button