ดักเก็บ 8 หุ้นพลังงานตัวท็อป! ก่อนแจ้งงบฯ Q1  ชูกำไรโตเด่น-อัพไซด์หรู แถมปัจจัยบวกเพียบ

ดักเก็บ 8 หุ้นพลังงานตัวท็อป! ก่อนแจ้งงบฯ Q1  ชูกำไรโตเด่น-อัพไซด์หรู แถมปัจจัยบวกเพียบ นำโดย PTT, PTTEP, TOP, IRPC, BANPU, SPRC,SGP และ BCP


ช่วงนี้อยู่ในระยะประกาศผลการดำเนินงานไตรมารส 1/2561 โดยคาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ค.ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดบวก/ลบ ตามราคาน้ำมัน โดยนักวิเคราะห์มองว่ากลุ่มพลังงานและปิโตรเป็นกลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะออกโดดเด่นและต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/61 อาทิ เนื่องจากได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังสูงเกิน 65 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศดังกล่าว“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”ได้ทำการรวบรวมหุ้นหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่คาดว่าผลงานไตรมาส 1/61 จะประกาศออกมาอย่างโดดเด่น และเชื่อว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรก่อนประกาศงบมานำเสนอ เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่มีประเด็นบวกค่อนข้างหลากหลาย อาทิ  PTT, PTTEP, TOP, IRPC, BANPU, SPRC,SGP และ BCP อีกทั้งราคาหุ้นยังมีเป้าหมายให้เข้าลงทุน

โดยวานนี้(26เม.ย.) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP รายงานกำไรไตรมาส 1/61 ดีกว่าคาด โดยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า กำไรสุทธิ 13,381 ล้านบาท (+8.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +41.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 12,696 ล้านบาท และของเราที่ 12,269 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนผลิตต่อหน่วยที่ต่ำกว่าคาด

หากไม่รวมรายการพิเศษที่ส่วนใหญ่เกิดจากผลจากผลการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 9,620 ล้านบาท (29.1*% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +22.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) สูงกว่าตลาดคาด 7.1% (ค่าเฉลี่ยตลาดที่ 8,979 ล้านบาท และของเราที่ 8,506 ล้านบาท)

กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวขึ้นทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า หนุนโดยราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็น 44 เหรียญต่อ BOE (+15.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +5.4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 20.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 7.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 64 เหรียญต่อบาร์เรล ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงตามปัจจัยฤดูกาล 5.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 29.2  เหรียญต่อ BOE แต่เพิ่มขึ้น 6.0% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ปริมาณขายลดลง 6.4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 293KBOED จากการเรียกรับก๊าซฯ จากแหล่งบงกชลดลง อีกทั้งมีการหยุดซ่อมบำรุงโครงการมอนทารายาวนานขึ้น

ส่วนแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2/61มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากราคาขายที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมัน น้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 2QTD เพิ่ม 6.1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 68 เหรียญต่อบาร์เรล

กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส1/61 คิดเป็น 29% ของคาดการณ์ของเราเบื้องต้นเรายังคงประมาณการไม่เปลี่ยนแปลงและยังคงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย DCF 125 บาท  บนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ 60 เหรียญต่อบาร์เรล จาก Sensitivity ของเราพบว่าทุก 1 เหรียญต่อบาร์เรลที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อมูลค่าของ PTTEP ประมาณ 2 บาทต่อหุ้น

 

ด้านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ราคาหุ้นสะท้อนประเด็นการแตก Par ซึ่งเริ่มซื้อขาย Par ใหม่ ที่ 1.0 บาท (จาก 10.0 บาท) ไปแล้วแต่หุ้นก็ยังมีประเด็นที่น่าจับตาดังนี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส  ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บอร์ด PTT ไฟเขียวให้บริษัทเข้าซื้อเอกสาร TOR เพื่อศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เหตุเป็นโครงการที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต และยังเพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ให้กับบริษัท แต่ยังไม่สรุปจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรรายใด

นอกจากนี้มองว่าหุ้น PTT มีปัจจัยกระตุ้นอยู่หลายประเด็น ได้แก่ 1. ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหนุนกำไรของธุรกิจสำรวจและผลิต (PTTEP)} 2. การเข้าถือหุ้น IRPC เพิ่มเป็น 48% (เดิม 38.5%) ทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้น, 3. สเปรดปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งหนุนกำไรบริษัทร่วมทั้ง PTTGC & IRPC โดย IRPC จะมีกำไรเพิ่มขึ้นดีจากการโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มผลิตภัณฑ์ Value added ด้วย, 4. มีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า PTTOR, 5. PTTEP มีโอกาสชนะประมูลสัมปทานแหล่งบงกชและเอราวัณ โดยจะทราบผลประมูลปลายปี 61 เซ็นสัญญาต้นปี 62 การอ่อนตัว/พักฐานของราคาหุ้นเป็นจังหวะซื้อ

 

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า Energy: Insights into 1Q18 earnings ในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ cover (PTT, PTTEP, TOP, IRPC, BANPU, SPRC, และ BCP) คาดรายงานกำไรรวม 6.3 หมื่นล้านบาท ดีขึ้น 1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มต้นน้ำ PTT และ PTTEP คาดกำไรโตเด่นทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่โรงกลั่นส่วนใหญ่กำไรอ่อนตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะค่าการกลั่นลดลง อย่างไรก็ดีเราคาด 2Q18 กลุ่มโรงกลั่นจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น จากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น ชอบ TOP ที่สุดในโรงกลั่น และชอบ PTT ที่สุดในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (รายละเอียดคาดการณ์กำไรในรายงานฉบับเต็ม)

 

บล.ทิสโก้ ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรในครึ่งปีแรก จากราคาก๊าซ LPG ปัจจุบันที่ปรับตัวขึ้นมาที่ 600-620 $/ตัน vs เฉลี่ยปีที่แล้วที่ประมาณ 500 $/ตัน และแผนการขยายสู่ตลาดจีนตอนเหนือ ขณะที่โรงไฟฟ้าดีเซลขนาด 10MW ในเมียนมาเริ่มสร้างรายได้แล้วตั้งแต่ต้น เม.ย., จะประชุมผถห.ศุกร์นี้อนุมัติแตกพาร์จาก 1 บ. เป็น 50 สต., Consensus ให้เป้าพื้นฐาน 37 บ.

 

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม Energy และ Petro  นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อดักงบ Q1/18 ที่กำลังทยอยประกาศจนถึงกลางเดือนพ.ค.ช่วยหนุนดัชนีอีกด้วย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 5 วันที่ 1,610 ล้านบาท และ Net Long TFEX 10,141 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 309 ล้านบาท

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง รอดูผลประกอบการกลุ่มพลังงาน และแนะทยอยสะสมกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มรถไฟฟ้า, กลุ่ม ICT และ กลุ่มโรงพยาบาล โดยกลุ่มพลังงานและปิโตร เป็นกลุ่มที่เราคาดผลประกอบการไตรมาส1/61 เด่น และต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/61 แนะรอซื้อ PTT บริเวณ  55.0 บาท +/- และ IVL บริเวณ  59.0 บาท +/-

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ไตรมาส 1/61 ปรับตัวขึ้นทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 2,605 ล้านบาท หนุนโดยการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มสูงถึง 98.5% หรือ 212 KBD (+82.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +2.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ขณะที่ market GIM คาดลดลงเล็กน้อย (-1.6%) เทียบไตรมาสก่อนหน้า ที่ 14.1 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามจากกำไรสต๊อกที่ลดลง

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/61 เท่ากับ 2,746 ล้านบาท ลดลง 39.1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 ที่จะเริ่มรับรู้ผลบวกจากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโครงการ UHV อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2561 คาดเติบโต 16.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งแนวโน้ม Crude Premium ใน 2Q61 ที่ลดลงจาก ไตรมาส1/61 และยังมี Upside จากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ได้ผลบวกทั้งจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง เราแนะนำ ทยอยซื้อสะสม  ราคาเป้าหมายเท่ากับ 8.40 บาท อ้างอิง PBV 1.8 เท่า

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นในประเทศภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ โดยอยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ค. ขณะที่กลุ่มพลังงาน คาดบวก/ลบ ตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามยังมีความน่าสนใจเฉพาะตัว เช่น  PTTEP ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไรจากการเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกช-เอราวัณ โดยคาดมีเปิดประมูลช่วงก.ย.’61 และทราบผลประมูลในเดือนธ.ค.’61 ขณะที่ PTT คาดราคาหุ้นสะท้อนประเด็นการแตก Par ซึ่งเริ่มซื้อขาย Par ใหม่ ที่ 1.0 บาท (จาก 10.0 บาท) ไปแล้ว

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า IRPC ([email protected]) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/61  เท่ากับ 2.8 พันล้านบาท ลดลง 38.6%qoq จากกำไรสต็อกน้ำมันที่ลดลง นอกจากนี้คาดในงวดนี้ไม่มีการบันทึกกำไรพิเศษ แต่หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติ ไตรมาส1/61 พบว่าเพิ่มขึ้น 22.5%qoq มาอยู่ราว 2.4 พันล้านบาท จากการเดินเครื่องของโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ Market GIM ลดลงเพียงเล็กน้อย ส่วนแนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 2/61 ทรงตัวใกล้เคียง ไตรมาส1/61 โดยรวมกำไรปกติปี 2561 คาดเติบโตถึง 60.5%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจาก Market GIM และ utilization rate ที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 โดยราคาหุ้นที่มีการปรับฐานช่วงสั้น เพิ่มความน่าสนใจทั้ง upside ที่เพิ่มขึ้นเป็น 20% และ Dividend Yield สูงกว่า 4.5% ต่อปี จึงถือเป็นโอกาสทยอยซื้อลงทุน

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  IVL (70) : คาดกำไรไตรมาส 1/61 ที่ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 22% เทียบไตรมาสก่อนหน้าจาก PTA และ PET spread ดีขึ้นทั้งในยุโรปและเอเซีย

 IRPC (8.3) : คาดกำไรไตรมาส 1/61 ที่ 2.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 190%YoY และ 23%QoQ เพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนเนื่องจากไม่มีการ shutdown เช่นที่เกิดในปีก่อนหน้า ขณะที่กำไร

PTTGC (125): ปรับประมาณการของผลประกอบการของ PTTGC ขึ้น 14.6% ในปี 2018 และ 22.4% ในปี 2019 จากราคาปิโตรเคมีเคิล และค่า spreads ของ PTTGC และบริษัทย่อย ที่อยู่ในแนวโน้มสดใส ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ PTTGC ยังคงเป็นหนึ่งใน Toppick ของเราในกลุ่ม O&G

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มพลังงาน น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” และประเมินว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในขณะนี้จะทำให้มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มฯ ซึ่งประเมินว่าหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันรองมาคือ PTT*, PTTGC* สำหรับหุ้นเด่นของกลุ่มฯในเชิงพื้นฐานยังคงเลือก PTTEP*, IVL*, BANPU*

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button