EP กำไรปี 63 ออลไทม์ไฮ 1.14 พันลบ. ปันผล 0.25 บ. เปิดแผนปีนี้ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม160MW

EP กำไรปี 63 ออลไทม์ไฮ 1.14 พันลบ. ปันผล 0.25 บ. เปิดแผนปีนี้ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม160MW


นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดปี 2563 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,763.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.35% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,103.73  ล้านบาท

โดยมีกำไรสุทธิประจำปีส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่รวม 1,135.312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 74% ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชี ห (Book Value) อยู่ที่ 5.21 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการขายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากเป็นการลงทุนตั้งแต่เริ่มโครงการ (Green Field Project) ที่บริษัทสามารถควบคุมและบริหารความเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญได้แล้วทั้งหมด

การถือโครงการต่างๆเอาไว้ในระยะยาว อาจดีกับบริษัทตรงที่มีรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่มั่นคงและแน่นอน แต่การขายโครงการที่ได้ราคาที่ดี ก็สามารถนำผลกำไรที่ได้ไปลงทุนต่อยอดในโครงการเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนโครงการที่ต่ำลง เนื่องจากการประหยัดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นกว่าเดิมมากนายยุทธ กล่าว

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ประธานกรรมการบริษัทฯ ยังประเมินว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการเติบโตของยอดขายในระดับ 80%จากปีก่อน ในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆอีกจำนวนมาก ทั้งในและต่างประเทศ  โดยล่าสุด ความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 160 MW ที่เวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างก็เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้  คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเวียดนามตอนกลาง ขนาดกำลังผลิตประมาณ 1,500เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการร่วมทุนกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคตอย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีความสนใจจะพิจารณาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการ Solar 30,000 MW ของกองทัพบก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯมีตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 หมื่นล้านบาทได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2563 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท และได้กำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น(Record Date)เพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

Back to top button