THE คาดไตรมาส 2 ออเดอร์ทะลัก! หนุนรายได้ทั้งปี 1.3 หมื่นลบ. พ่วงปันผล 0.20 บ.

THE ประกาศไตรมาส 1/2564 พลิกกำไร 349 ล้านบาท เผยไตรมาส 2 ออเดอร์ทะลักมากกว่าพันล้านบาท หนุนรายได้ทั้งปีแตะ 1.3 หมื่นล้านบาท พร้อมปันผล 0.20 บาท ขึ้น XD วันที่ 27 พ.ค 64 กำหนดจ่าย 10 มิ.ย 64


นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ THE เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2564 จะพลิกกลับมามีผลกำไรสุทธิ และคาดว่าจะมีรายได้จากการขายราว 13,000 ล้านบาท ภายหลังผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้จากการขาย 3,202 ล้านบาท เติบโต 85% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และพลิกมีกำไรสุทธิ 349.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 160.72 ล้านบาท

โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯ พลิกมีผลกำไร เนื่องจากประเทศจีนได้ปรับลดกำลังการผลิตเหล็ก และลดการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กจากต่างประเทศ เนื่องจากการขนส่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเกิดภาวะขาดแคลนปริมาณเหล็กภายในประเทศ

ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวกระทบราคาเหล็กในตลาดโลกและราคาขายเหล็กในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายโดยเฉลี่ยของเหล็กม้วนดำ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม เทียบจากราคาขายเฉลี่ยในปี 2563 อยู่ที่ 18-19 บาทต่อกิโลกรัม และทำให้ราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ยของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 32%

“บริษัทฯติดตามสถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด และพบว่าราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ย ในไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ ยังคงทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากไตรมาสแรก และพบว่ามียอดคำสั่งซื้อเหล็กคงค้างและรอส่งมอบเพื่อรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 2 นี้ ไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท ทำให้มีความเชื่อมั่นในผลประกอบการสำหรับงวดปี 2564 นี้จะเติบโตอย่างโดดเด่นและมีนัยสำคัญ”  นายบุญชัยกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าในปี 2564 นี้ ผลประกอบการจะมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุด(New High) คาดการณ์ได้จากงบไตรมาสแรกเพียงไตรมาสเดียว ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 349.41 ล้านบาท มากกว่าผลประกอบการย้อนหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2563 มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 130 ล้านบาท ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 215.51 ล้านบาท และปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์จุดต่ำสุดของราคาเหล็กได้ผ่านพ้นไปแล้ว เนื่องจากประเทศจีนไม่สามารถให้ส่วนลดพิเศษทางการค้า (Rebate) สินค้าเหล็ก หลังจากได้รับแรงกดดันทางการค้าจากประชาคมโลก

ขณะที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายในวันที่ 10 มิถุนายน 2564

Back to top button