
“ครม.” ไฟเขียวจัดซื้อ Gripen – เดินหน้าโครงการเรือดำน้ำ
“กองทัพอากาศ–กองทัพเรือ” ขอบคุณรัฐบาล เดินหน้าจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เสริมขีดความสามารถปกป้องอธิปไตยทางอากาศและทางทะเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.68) เฟซบุ๊ก “กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force” เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนแบบ Saab JAS 39 Gripen E/F ให้กองทัพอากาศ (ทอ.) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการรักษาอธิปไตยเหนือน่านฟ้าของประเทศ
โดยระบุว่า “Saab JAS 39 Gripen E/F … Ready for Take Off”
วันเดียวกัน สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ ได้ออกหนังสือชี้แจง กรณีโครงการจัดหาเรือดำน้ำ โดยระบุว่า กองทัพเรือขอขอบคุณครม. ที่มีมติเห็นชอบให้แก้ไขข้อตกลงฯ เปลี่ยนเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและขยายระยะเวลาการส่งมอบ ซึ่งจะทำให้สามารถเดินหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำได้อย่างต่อเนื่อง และจะทำให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถของกำลังทางเรือที่ครบสมบูรณ์ทั้งมิติผิวน้ำ มิติเหนือน้ำ และมิติใต้น้ำ รวมทั้งจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้การดำเนินการแก้ไขข้อตกลงฯ เป็นไปด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน จนสามารถเสนอขอความเห็นชอบจากครม.
กองทัพเรือ ขอยืนยันว่า นโยบายควบคุมการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ (Embargo Policy) ของสหภาพยุโรปที่ได้ประกาศนั้นเกิดขึ้น ในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ซึ่งมีผลเมื่อปี 2560 ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อตกลงฯ
และการแก้ไขข้อตกลงฯ ครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้แก่ การขยายระยะเวลาการรับประกันและอะไหล่ การฝึกอบรมกำลังพล และสนับสนุนยุทโธปกรณ์ รวมถึงการสนับสนุนเครื่องฝึกจำลองควบคุมเรือดำน้ำ (Simulator) เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพและความพร้อมของเรือดำน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำในอนาคต
สำหรับเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะใช้กับเรือดำน้ำ ได้รับการตรวจทดสอบทดลองคุณภาพแล้ว มีขีดสมรรถนะและความปลอดภัยเทียบเท่าหรือดีกว่ารุ่นเดิม และได้รับการรับรองจากสถาบันจัดชั้นเรือระดับโลก คือ Lloyd’s Register สหราชอาณาจักร รวมทั้งได้มีการใช้จริงในเรือดำน้ำของประเทศคู่สัญญารายอื่น ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่กองทัพเรือจัดหา
“ขอให้พี่น้องประชาชนจงเชื่อมั่นว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะใช้งานอาวุธ ยุทโธปกรณ์ให้คุ้มค่ามากที่สุดเพื่อปกป้องเอกร อธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์” สำนักงานโฆษกกองทัพเรือระบุทิ้งท้าย