ศป.กฉ. อัปเดตดับ 145 ราย สงขลา 110 ราย เดินหน้าเพิ่มกำลังฟื้นฟู-เยียวยา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (28 พ.ย. 2568) เวลา 15.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานยอดผู้เสียชีวิตสะสมในพื้นที่ภาคใต้ 145 ราย ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช 9 ราย พัทลุง 4 ราย สงขลา 110 ราย ตรัง 2 ราย สตูล 5 ราย ปัตตานี 6 ราย ยะลา 5 ราย และนราธิวาส 4 ราย

นายสิริพงศ์ ระบุว่า จากความเห็นของแพทย์และนิติเวช เห็นควรยุติการแบ่งเคสผู้เสียชีวิต 110 รายของจังหวัดสงขลาออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ โดยตั้งแต่วันนี้จะไม่นำเสนอการแบ่งเคสอีกต่อไป ทุกกรณีถือว่าเป็นผู้เสียชีวิตในช่วงเหตุการณ์เดียวกัน ทั้งนี้ ยอดที่เกิดขึ้นหลังการแถลงครั้งนี้ยังไม่ถือว่าเป็นทางการ จนกว่าจะมีการบูรณาการข้อมูลจากตำรวจ นิติเวช และสาธารณสุข ส่งเข้าศป.กฉ.ครบถ้วน

สำหรับยอดผู้ที่อพยพเข้าศูนย์พักพิงจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน อยู่ที่ 14,160 คน จากความจุรวมที่ยังรองรับได้ 20,840 คน ขณะเดียวกันกำลังการผลิตอาหารภายในศูนย์พักพิงเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัยสามารถทำได้ 92,320 ชุดต่อวัน และวันนี้มีการเพิ่มกำลังผลิตเพิ่มเติม

ส่วนเงินช่วยปลงศพศพละ 2,000,000 บาท นายสิริพงศ์ชี้แจงว่า ได้หารือกับฝ่ายนิติเวช โดยกรณีเสียชีวิตก่อนเกิดน้ำท่วมซึ่งมีการตกค้างเดิม จะต้องแยกยืนยันจากญาติผู้เกี่ยวข้อง ส่วนที่เหลือจะได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์เดียวกันทั้งหมด

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศป.กฉ. กล่าวว่า รัฐบาลเริ่มเปลี่ยนโหมดเข้าสู่การฟื้นฟูและเยียวยา เพื่อเร่งให้เมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด

ด้านหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท นายสิริพงศ์ ระบุว่า จะมีมาตรการอื่นเสนอเพิ่มเติม ซึ่งเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศที่อำเภอหาดใหญ่

ระหว่างการแถลงข่าว มีผู้สื่อข่าวตั้งคำถามถึงเสียงสะท้อนต่อการบริหารสถานการณ์น้ำท่วม ที่บางส่วนต้องการให้รัฐบาลลาออก นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และยอมรับว่า มีข้อผิดพลาดบางส่วน แต่ย้ำว่าการรับมือเหตุอุทกภัยต้องเดินหน้าในทุกมิติ ทั้งช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยา โดยนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงประเด็นเหล่านี้ในช่วงเวลาอันใกล้

ส่วนประเด็นทางการเมือง ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่นายภราดรปิดไมค์และลุกจากเก้าอี้ หลังถูกสื่อมวลชนถามถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อการบริหารสถานการณ์น้ำท่วม นายภราดร กล่าวขออภัยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม แต่ต้องการให้สาระสำคัญของมาตรการช่วยเหลือประชาชนเป็นประเด็นหลักของการสื่อสาร ขณะที่เรื่องการเมืองซึ่งเป็น “ประเด็นกระพี้” ไม่ต้องการให้กลายเป็นแก่นในช่วงวิกฤต

“ผมต้องขออภัย เชื่อว่าสื่อมวลชนรู้จักผมมานานพอสมควร ผมไม่มีนิสัยที่จะหลบหนี หรือไม่ตอบคำถามพวกเรา ถือโอกาสตรงนี้ขออภัยอีกครั้ง” นายภราดร ระบุ