ความมั่งคั่งของจีนต่อเศรษฐกิจอาเซียน

–ตามกระแสโลก–

 

จริงๆ แล้วจีนนั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสหรัฐอเมริกาซักเท่าไหร่หรอก เพราะทั้ง 2 ประเทศต่างก็เป็นมหาอำนาจที่ต้องการจะเป็นเจ้าโลกด้วยกันทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ว่า ความมั่งคั่งและรุ่งเรืองของจีนนั้น ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ASEAN เป็นอย่างมาก

เช่นที่เรารู้กันดี จีนมีเศรษฐกิจขนาดมหึมา ด้วยมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP มากเกินกว่า 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจีนเป็นทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก อีกทั้งยังมีประชากรจำนวนมหาศาลกว่า 1.40 พันล้านคน ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่า เกือบจะทุกย่างก้าวของจีนบนเวทีเศรษฐกิจโลกย่อมมีผลกระทบทั้งด้านบวกและลบต่อประเทศอื่นๆ

ประเด็นแรกที่ความร่ำรวยของจีนเข้ามามีส่วนเกื้อหนุนต่อเศรษฐกิจของอาเซียนคือเรื่องของการส่งออก เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้า หรือที่เรียกว่า Single Trading Partner รายใหญ่ที่สุดของเรา โดยในปัจจุบัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียตนามคือ ผู้ส่งออกสินค้าสำเร็จรูปไปยังประเทศจีนมากที่สุด ขณะที่ไทยเรา รวมไปถึงอินโดนีเซียถือเป็นผู้ส่งออกส่วนประกอบ วัสดุ หรือวัตถุดิบต่างๆ เจ้าใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

 

 

ประเด็นถัดมาคือเรื่องของการท่องเที่ยว โดยสามารถวัดได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาสู่ภูมิภาคนี้ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศไทยที่คนจีนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ถือเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของชาวจีน นอกเหนือไปจากกรุงเทพฯและพัทยา ขณะที่มาเลเซีย และสิงคโปร์คือ จุดหมายปลายทางที่ชาวจีนเดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยียนญาติสนิทมิตรสหาย รวมไปถึงทำธุรกิจมากที่สุดในบรรดาชาติอาเซียนทั้งหมด

ส่วนประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องของการเข้ามาลงทุนโดยตรงของนักธุรกิจชาวจีน หรือ Foreign Direct Investment โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนในธุรกิจผลิตสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและรองเท้าในประเทศกัมพูชา และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเวียตนาม ซึ่งนอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการจากจีนแผ่นดินใหญ่อีกจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจบริการในประเทศไทย โดยมีทั้งธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจร้านอาหาร

แม้ปัจจุบัน ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนหลายตัวอาจแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของพวกเขากำลังชะลอตัวลง แต่ถึงกระนั้น ด้วยขนาดของตัวเศรษฐกิจและจำนวนประชากร ทำให้จีนยังคงมีกำลังซื้อปริมาณมหาศาลให้กับชาติอาเซียน รวมไปถึงยังสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และลงทุนในภูมิภาคนี้ได้อย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ถือว่า มีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทั้งเป็นการสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียน รวมไปถึงเป็นการสนับสนุนให้ประเทศคู่ค้าของจีนมีเงินไว้ใช้สำหรับการพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ของตัวเอง