“ดาวโจนส์” ปิดบวก 315 จุด รับหุ้นเทคโนโลยีหนุน–หวังเฟดลดดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนวันพุธ (26 พ.ย.68) ปิดบวกกันทั้งกระดาน โดยนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายคึกคัก ขณะที่ตลาดเตรียมเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว “Thanksgiving Day” (วันขอบคุณพระเจ้า) ปลายสัปดาห์นี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,427.12 จุด เพิ่มขึ้น 314.67 จุด หรือ +0.67%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,812.61 จุด เพิ่มขึ้น 46.73 จุด หรือ +0.69%
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,69 จุด เพิ่มขึ้น 189.10 จุด หรือ +0.82%

แรงหนุนของตลาดมาจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นสำคัญที่ได้รับการจับตามอง ได้แก่ Nvidia, Microsoft และ Broadcom ขณะที่หุ้นบริการทางการเงิน Robinhood Markets พุ่งขึ้นโดดเด่นที่สุดในดัชนี S&P 500 หลังประกาศแผนขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดคาดการณ์ (prediction markets) ซึ่งเป็นปัจจัยดึงแรงซื้อเข้าหากลุ่มดังกล่าว

ปัจจัยหลักที่ผลักดันความเชื่อมั่น ได้แก่ แนวโน้มที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน นักลงทุนให้น้ำหนักสูงกว่า 85% ต่อโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนและลดแรงกดดันด้านต้นทุนเงินกู้ของภาคธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเผชิญแรงกดดันจากความผันผวน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีระดับการประเมินมูลค่าหุ้น (valuation) สูง นักลงทุนยังติดตามความเสี่ยงด้านผลประกอบการและปัจจัยทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ที่อาจกระทบต่อทิศทางตลาด แม้แรงซื้อรอบนี้จะช่วยผลักดันดัชนีให้ปิดบวกได้ก็ตาม

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 226,000 ราย สะท้อนภาวะตลาดแรงงานที่ยังทรงตัว

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการครึ่งวัน ในวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน หรือวัน Black Friday โดยมีกำหนดปิดตลาดเวลา 13.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ