J.P. Morgan เพิ่มเติมมุมมองแก่การลงทุนใน Block Trade

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ลงทุนหลายท่านน่าจะคุ้นกับคำว …


ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ลงทุนหลายท่านน่าจะคุ้นกับคำว่า “Block Trade” หรือที่เรียกกันเต็มๆว่า “Single Stock Futures (SSF) Block Trade” ซึ่งผ่านหูผ่านตาในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความเคลื่อนไหวรุนแรง บ้างก็ว่า Block Trade ทุบตลาด หรือสร้างความผันผวนในราคาหุ้น หรือบางท่านอาจจะเคยลงทุนผ่าน Block Trade แล้วเกิดการขาดทุนทำให้รู้สึกเข็ดต่อตลาดฟิวเจอร์ส

ทั้งที่ในความเป็นจริง SSF Block Trade สามารถทำให้ผู้ลงทุนได้ประโยชน์เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการ trade ในหลายแง่มุม เช่นการได้รับผลประโยชน์ที่อาจเทียบเท่ากับเงินปันผลผ่าน SSF ซึ่งรวดเร็วกว่าการได้รับเงินปันผลโดยตรงจากการถือหุ้นจริง หรือการถือ SSF ทดแทนการถือหุ้นในระยะยาวซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสต่อยอดในการลงทุนอื่นๆ รวมทั้งลดต้นทุนการถือครองหุ้นได้เป็นอย่างดี SFF Block Trade จึงเป็นเครื่องมือที่ให้เป็นประโยชน์ในสภาวะตลาดที่แตกต่างไป

Single Stock Futures หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า SSF เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีราคาอ้างอิงกับราคาหุ้นนั้นๆ โดยปกติแล้วผู้ลงทุนจะสามารถจับคู่ซื้อขาย SSF ได้บนกระดาน TFEX เช่นเดียวกับการจับคู่ซื้อขายหุ้นในกระดาน SET โดยทั่วไปแต่ผู้ลงทุนสามารถใช้ SSF ในการเทรดตามราคาหุ้นด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่า ราคา Futures ก็จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับหุ้นอ้างอิงนั้นๆ โดยรวมปัจจัยดอกเบี้ยกับเงินปันผลเข้าไปด้วย

แต่หากผู้ลงทุนต้องการเปิดสัญญา Futures จำนวนมาก การเก็บ Futures บนกระดานอาจจะทำให้ได้ราคาไม่ตรงตามที่ต้องการ หรือกว่าจะได้ปริมาณครบตามต้องการอาจใช้เวลานาน เพื่อเป็นการแก้ไขข้อจำกัดนี้ TFEX จึงเปิดตัว SSF Block Trade ให้ผู้ลงทุนสามารถทำรายการลักษณะเดียวกันเป็นจำนวนมากผ่าน SSF Block Trade ได้ โดยส่งคำสั่งไปยังโบรกเกอร์เพื่อให้ทำธุรกรรมให้เกิดการจับคู่ซื้อขาย จึงทำให้ผู้ลงทุนได้ Futures ตามปริมาณและราคาที่ต้องการ เห็นได้ว่าการทำ SSF Block Trade เป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ลงทุนอีกทางหนึ่งในการ trade

อันที่จริง SSF Block Trade ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการเก็งกำไรจากทิศทางราคาหุ้นเท่านั้น หากนักลงทุนเพิ่มเติมมุมมองที่มีต่อ SSF Block Trade ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดังกล่าวในหลายรูปแบบ รูปแบบแรกคือการได้รับผลประโยชน์ที่ใกล้เคียงกับเงินปันผลผ่าน SSF ซึ่งรวดเร็วกว่าการได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นจริง ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งคือการที่สามารถถือหุ้นผ่าน SSF ด้วยเงินที่น้อยกว่า หรืออาจพูดได้ว่าเป็นการนำหุ้นมารีไฟแนนซ์เพื่อนำเงินเพียงส่วนหนึ่งมาลงทุนใน SSF Block Trade จึงทำให้นักลงทุนสามารถนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นได้อีกด้วย

สำหรับการใช้งาน SSF Block Trade ในรูปแบบแรกนั้น เทียบกับปกติผู้ลงทุนที่ทำการลงทุนในหุ้นโดยตรงจะได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ถือครองอยู่ตามวันที่บริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายปันผล เช่นถ้าผู้ลงทุนถือหุ้น PTT อยู่ 200,000 หุ้น ที่ราคา 42 บาท มูลค่ารวม 8,400,000 บาท แล้ว PTT ประกาศจ่ายปันผลราคา 1.20 บาทต่อหุ้น และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 มีนาคม 2562 ผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลจริงจำนวน 240,000 บาทในวันที่ 30 เมษายน 2562 จะเห็นได้ว่าผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลหลังจากวันที่มีการขึ้นเครื่องหมาย XD ประมาณ 2 เดือน แต่หากผู้ลงทุนทำการลงทุนใน SSF Block Trade ผู้ลงทุนจะได้รับเงินชดเชยเงินปันผลที่ราคาที่โบรกเกอร์รับซื้อคืนสัญญาจากผู้ลงทุนล่วงหน้าแม้จะไม่ได้รับเงินปันผลจากหุ้นโดยตรง

ดังนั้นหากผู้ลงทุนไม่ทำการลงทุนในหุ้น PTT โดยตรงแต่เลือกที่จะลงทุนใน SSF Block Trade โดยการเปิดสัญญา PTTU19 กับโบรกเกอร์จำนวน 200 สัญญา (มูลค่าเท่ากับ 200,000 หุ้น) ก่อนวันที่ PTT จะขึ้นเครื่องหมาย XD คือ 5 มีนาคม 2562 (ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องวางเงินหลักประกันประมาณ 610,000 บาท) โบรกเกอร์จะไปซื้อหุ้น PTT จำนวน 200,000 หุ้นเพื่อเปิด SSF Block Trade รายการดังกล่าว และเมื่อถึงวันที่ PTT ขึ้นเครื่องหมาย XD   ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 โบรกเกอร์จะทำการชดเชยเงินปันผลให้กับนักลงทุนผ่านการตั้งราคารับซื้อคืนสัญญาจากผู้ลงทุนในราคาที่สูงขึ้นด้วยมูลค่าที่เท่ากับราคาที่ PTT ประกาศจ่ายเงินปันผลโดยประมาณ หากผู้ลงทุนทำการปิดสัญญาดังกล่าวทันทีผู้ลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนเทียบเท่ากับการได้รับเงินชดเชยเงินปันผลผ่านราคา Futures ทันทีหลังมีการปิดสัญญาดังกล่าว

เห็นได้ว่ามีความแตกต่างกับกรณีที่ลงทุนในหุ้นโดยตรงซึ่งผู้ลงทุนใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจึงจะได้รับเงินปันผลจริง ทั้งนี้ในเรื่องของการได้รับผลประโยชน์ที่เทียบเท่าเงินปันผลนั้น ผู้ลงทุนอาจได้ไม่ครบ 100% ตามราคาที่บริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายเงินปันผล ผู้ลงทุนต้องสอบถามนโยบายของแต่ละบริษัทในการให้เงินชดเชยเงินปันผลผ่านการถือ SSF Block Trade บางบริษัทอาจมีนโยบายการชดเชย 90% ของเงินปันผล ในขณะที่บางบริษัทอาจมีนโยบายชดเชย 80% ของเงินปันผล เป็นต้น ดังนั้นผู้ลงทุนควรสอบถามโบรกเกอร์ถึงนโยบายดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน

อีกมุมมองหนึ่งในการใช้ประโยชน์จาก SSF ที่สำคัญคือความคิดจากผู้ลงทุนหลายๆท่านว่า SSF  มีไว้สำหรับทดแทนการเทรดหุ้น ดังนั้นผู้ลงทุนจะต้องมี view สำหรับหุ้นนั้นๆ ว่าจะขึ้นหรือลงจึงจะสามารถมาเปิดสัญญา SSF เพื่อ leverage เงินที่มีอยู่ได้ อันที่จริงแล้ว SSF สามารถใช้ประโยชน์และเพิ่มโอกาสการลงทุนได้ถึงแม้ผู้ลงทุนไม่ได้มี view บนหุ้นนั้นๆ นั่นคือการ “ถือ” SSF แทนการ“ถือ”หุ้นซึ่งอาจเป็นหุ้นที่ผู้ลงทุนต้องการถือเพื่อรับเงินปันผล หรือมีความต้องการจะถือในระยะยาวเป็นทุนเดิม (1 เดือนขึ้นไป ) โดยผู้ลงทุนนำหุ้นที่ผู้ลงทุนต้องการ “ถือ” ในระยะยาวมาฝากกับทางโบรกเกอร์เพื่อเปิดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SSF บนหุ้นนั้นๆ ซึ่งหากนำหุ้นมาฝากกับทางโบรกเกอร์ ผู้ลงทุนจะได้รับเงินในวันที่ T+2 ตามมูลค่าของหุ้นที่นำมาฝาก

ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องนำเงินประมาณ 20% ของมูลค่าหุ้นนั้นๆ ไปวางเป็นหลักประกันในบัญชีซื้อขายอนุพันธ์เพื่อเปิดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน SSF ซึ่งจะเท่ากับว่าผู้ลงทุนสามารถนำเงินประมาณ 80% ไปใช้ในการลงทุนอื่นๆที่ต้องการได้ตามระยะเวลาที่มีการฝากหุ้นไว้กับทางโบรกเกอร์ โดยผู้ลงทุนยังคงได้รับผลตอบแทนเทียบเท่ากับการได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นนั้นๆผ่านการชดเชยเงินปันผลใน SSF ด้วย ผู้ลงทุนพียงแค่เลือกสินทรัพย์ในการลงทุนอื่นๆที่คาดว่าจะมีผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยการถือ SSF ก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้แก่เงินก้อนเดิมได้

จากที่กล่าวมาแล้วจะสังเกตได้ว่าหากผู้ลงทุนเพียงเพิ่มมุมมองที่มีต่อ SSF ผู้ลงทุนก็จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการหาผลตอบแทนด้วยการใช้ SSF เป็นเครื่องมือหนึ่งได้ ผู้ลงทุนสามารถถือ SSF ในระยะยาวทดแทนหุ้น และไม่จำเป็นจะต้องมีการเก็งกำไรทิศทางของหุ้นเพื่อทำกำไรบน SSF แต่อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนพึงระมัดระวังในด้านความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นอ้างอิงมีความผันผวนมาก และไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับ position ที่ผู้ลงทุนถืออยู่ อาจทำให้มีการเรียกเติมเงินหลักประกันในบัญชีเพื่อให้ระดับเงินหลักประกันเพิ่มขึ้นมาเท่ากับจำนวนที่มีการกำหนดไว้ในการวางเงินหลักประกัน ซึ่งหากผู้ลงทุนไม่มีการเตรียมเงินสำหรับการวางหลักประกันเพิ่ม ก็จะเป็นเหตุให้ถูกบังคับปิดสถานะหรือ force sell ได้ แม้แต่ดอกเบี้ยที่แต่ละโบรกเกอร์เรียกเก็บจากลูกค้าในการถือ SSF Block Trade ก็อาจแตกต่างกันในแต่ละที่ ซึ่งหากผู้ลงทุนสนใจในการทำธุรกรรม   SSF Block Trade สามารถติดต่อไปยังโบรกเกอร์ที่ผู้ลงทุนมีการเปิดบัญชีซื้อขาย Futures ในการขอข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

*คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Back to top button